หน้าแรก news กยศ. แจง บวชพระ-จำคุกไม่ตลอดชีวิต ไม่เข้าเกณฑ์ระงับการชำระหนี้

กยศ. แจง บวชพระ-จำคุกไม่ตลอดชีวิต ไม่เข้าเกณฑ์ระงับการชำระหนี้

0
กยศ. แจง บวชพระ-จำคุกไม่ตลอดชีวิต ไม่เข้าเกณฑ์ระงับการชำระหนี้
Sharing

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กยศ.กำลังพิจารณาหาแนวทางกำกับดูแลกลุ่มลูกหนี้ที่มีเหตุจำเป็น ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ อาทิ กลุ่มลูกหนี้ที่เป็นนักโทษ ลูกหนี้ที่ถูกศาลพิพากษาเป็นคนล้มละลาย ลูกหนี้ที่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง รวมทั้งมีลูกหนี้ที่บวชเป็นพระ โดยจะเข้าไปดูว่าจะมีแนวทางการติดตาม หรือแก้ปัญหาหนี้อย่างไรให้เหมาะสม เพื่อให้ผู้กู้ที่มีการชำระดีแต่เกิดเหตุจำเป็นได้รับการดูแลจากกองทุนฯ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กยศ.ได้มีการออกเกณฑ์ผ่อนผันชำระหนี้ให้อยู่แล้ว ใน 3 กรณี คือ เป็นผู้ไม่มีรายได้ เป็นผู้มีรายได้น้อยกว่าเดือนละ 4,700 บาท หรือเป็นผู้ประสบภัยพิบัติจากอัคคีภัย วาตภัย ภัยธรรมชาติ สงคราม จลาจล ซึ่งทรัพย์สินเสียหายรุนแรง โดยสามารถผ่อนผันได้คราวละไม่เกิน 6 เดือน รวมระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี และไม่เสียค่าปรับ ค่าธรรมเนียม รวมถึงให้ผ่อนได้ไม่น้อยกว่า 300 บาทต่อเดือน หรือ 2,400 บาทต่อเดือน แต่ต้องไม่น้อยกว่าดอกเบี้ย

สำหรับการระงับหนี้ จะทำให้ก็ต่อเมื่อผู้กู้ยืมถึงแก่ความตาย ส่วนการระงับการเรียกให้ชำระหนี้จะต้องเป็นผู้พิการ หรือทุพพลภาพจนไม่สามารถประกอบการงานได้ แต่จะต้องมีการกรอกแบบฟอร์มหนังสือรับรอง พร้อมแนบเอกสารหลักฐาน

ขณะที่แนวทางการช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้ จะมีการพิจารณาให้กองทุนระงับการเรียกชำระหนี้เพิ่มเติมอีก 3 กรณี จากเดิมที่จะระงับหนี้ให้กรณีเป็นผู้พิการหรือทุพพลภาพ โดยอาจจะเพิ่มเป็นกลุ่มลูกหนี้ที่เป็นโรคร้ายแรงที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ลูกหนี้ที่ถูกตัดสินใจจำคุกตลอดชีวิต และถูกคำสั่งศาลให้เป็นบุคคลล้มละลาย แต่ต้องมาแจ้งพร้อมแสดงหลักฐานกับ กยศ.ก่อน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของลูกหนี้ที่บวชเป็นพระ กยศ.ยังไม่ได้มีการยกเว้นหนี้ให้แต่อย่างใด เนื่องจากพระยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าจะสึกออกมาเมื่อไร หรือกรณีนักโทษที่มีโทษจำคุกไม่ตลอดชีวิตก็จะไม่เข้าเกณฑ์การระงับการชำระหนี้

นายชัยณรงค์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการหักเงินเดือนของผู้กู้ กยศ. เพื่อชำระหนี้ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560 ว่า จากการนำร่องหักเงินเดือนของผู้กู้ กยศ.เพื่อชำระหนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จไม่มีปัญหาอะไร อีกทั้งลูกหนี้ของ กยศ.ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ซึ่งหากเราสามารถดำเนินการได้อย่างครบวงจรก็จะทำให้ปัญหาการค้างชำระหนี้ลดลง นอกจากนี้ในปัจจุบันมีผู้เข้ามาติดต่อเพื่อชำระหนี้ กยศ.เพิ่มมากขึ้นจำนวนมาก โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้ติดต่อเรื่องเกี่ยวกับการชำระหนี้ทางโทรศัพท์มากถึง 200,000 สาย จากเดิมที่มีประมาณ 50,000 สายเท่านั้น รวมถึงผู้ที่มาติดต่อที่สำนักงานก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถึง 2 เท่าตัว ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ปกครองของผู้กู้”ผู้จัดการ กยศ.กล่าวและว่า ในปีการศึกษา 2563 กยศ.จะนำระบบกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา แบบดิจิทัล (DSL) ซึ่งระบบดังกล่าวเป๋นการพัฒนาขึ้นมา เพื่อลดเอกสารในรูปแบบกระดาษและทำสัญญาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday และ ไทยโพสต์


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่