“ถ้าจะแก้ปัญหาต้องแก้ที่ต้นเหตุไม่ใช่ปลายเหตุ ที่โดนทำร้ายก็สมควรแล้ว เพราะมันต้องมีคนตายก่อน ถึงจะมีการแก้ไขให้ มันต้องกระทืบให้ตายก่อน”
คำพูดเพียงแคนี้แต่สะท้อนอะไรมากมายในสังคมไทย
ปัญหาการแย่งพื้นที่ทำมาหากินระหว่าง แกร็บไบค์กับวินมอเตอร์ไซด์ ถือเป็นปัญหาที่เริ่มทวีความรุนแรงมาก หลังจากที่บรรดาวินมอเตอร์ไซด์ เริ่มไม่พอใจ จากที่แกร็บ ไบค์ ไปรับลูกค้าตามสถานที่ต่างๆ ทั้งตามคอนโดมีเนียม อพาร์ทเม้นท์ ก็มีปัญหามาตลอด
ล่าสุด เกิดขึ้นย่านสุขุมวิทย์ ที่ทำร้ายร่างกายกันจนบาดเจ็บสาหัส จากกรณีแกร็บ ไปรับผู้โดยสาร แล้วปรากฏว่าเจอวินเถื่อน ไม่ใส่เสื้อวินเดินมาหา จากนั้นทำร้ายร่างกาย พร้อมกับขู่ให้ลบวิดีโอที่ตัวเองถ่ายไว้ออก ถ้าไม่ทำตาม จะกระทืบจนกว่าจะลบ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ จะดำเนินการแจ้งความให้ถึงที่สุด เบื้องต้นคนขับแกร็บไบค์ ยังคงพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
ทั้งนี้จากการสอบถาม วินหน้าปากซอยสุขุมวิท 33 ต่างก็พากันบอกว่าไม่ใช่ลูกวินของตนเป็นผู้ก่อเหตุ และปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องดังกล่าว มีเพียง 1 คนเท่านั้นที่เห็นเหตุการณ์ โดยโดยกลุ่มวินต่างปฏิเสธว่าไม่ใช่วินซอยนี้เป็นผู้ก่อเหตุ และต่างพากันซ้ำเติมคนขับขี่แกร็บที่โดนรุมทำร้าย โดยบอกว่า “ทำผิดกฎหมายก็ต้องโดนแบบนี้ แย่งลูกค้าคนอื่น วิ่งล้ำเส้นคนอื่น ทำไมไม่ทำให้ถูกกฎหมาย ถูกผิดทำไมต้องโทษวินก่อน”
นอกจากนี้ กลุ่มวินปากซอยสุขุมวิท 22 ยังพูดต่ออีกว่า “ถ้าจะแก้ปัญหาต้องแก้ที่ต้นเหตุไม่ใช่ปลายเหตุ ที่โดนทำร้ายก็สมควรแล้ว เพราะมันต้องมีคนตายก่อน ถึงจะมีการแก้ไขให้ มันต้องกระทืบให้ตายก่อน”
ปัญหาทำท่าจะบานปลาย เพราะ ดูท่าทางข้อพิพาทระหว่างผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง หรือมอเตอร์ไซค์วิน กับ แกร็บไบค์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หากรัฐบาลไม่เข้ามาแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง
เพราะนับตั้งแต่วันที่กลุ่มมอเตอร์ไซค์วินร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาแก้ไขปัญหา ทั้งเรื่องการใช้รถป้ายทะเบียนส่วนบุคคล (ป้ายขาว) รับส่งผู้โดยสาร การรับผู้โดยสารตัดหน้ากัน หรือแม้แต่การให้บริการข้ามเขต เมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ที่ชัดเจน ตรงกันข้ามทั้งสองฝ่ายเกิดเหตุปะทะแย่งผู้โดยสารกันบ่อยครั้ง
กระทั่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) ต้องออกมาเคลียร์ปัญหา โดยได้เชิญผู้แทนของบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการแกร็บไบค์ผ่านแอพพลิเคชั่น มารับทราบปัญหาและเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด
ประเด็นปัญหานี้ หลักๆ นั้นเกี่ยวเนื่องกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ที่ก่อนหน้านี้ ที่รัฐบาลได้จัดระเบียบมอเตอร์ไซค์วิน และกรมการขนส่งฯ ได้ดำเนินการให้มอเตอร์ไซค์วินทุกคันขออนุญาตและขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย ซึ่งสถิติตัวเลขในปี 2559 กรุงเทพฯ มีมอเตอร์ไซค์วินที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งฯ จำนวน 23,666 ราย ใน 5,477 วิน
แต่คาดว่าปัจจุบันมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อนุญาตให้กรมการขนส่งฯ เปิดขึ้นทะเบียนในรอบที่ 2 มอเตอร์ไซค์วินนั้น แต่ละรายกว่าจะได้ใบอนุญาตต้องผ่านการตรวจสอบประวัติกันอย่างละเอียด แต่มีข้อเสีย คือ มักขับขี่ฝ่าฝืนกฎจราจร ทั้งขับขี่ย้อนศร ขับขี่บนทางเท้า เก็บค่าโดยสารแบบเอาเปรียบผู้โดยสาร
ขณะที่จำนวนแกร็บไบค์ไม่ทราบตัวเลขที่ชัดเจน แต่ถือเป็นการให้บริการรับส่งผู้โดยสารแนวใหม่ที่ตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 ที่ทั้งสะดวก สบาย และราคาให้บริการแบบเดียวกับมอเตอร์ไซค์วิน แต่ก็มีส่วนที่ยังผิดกฎหมาย คือ ยังมีผู้ให้บริการแกร็บไบค์ที่ใช้รถจักรยานยนต์ป้ายขาวไปรับส่งผู้โดยสาร และไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถรับจ้างสาธารณะ
ปัญหาดังกล่าว นายสรอรรถกลิ่นประทุม คณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย เคยให้ความเห็นว่า
“ส่วนตัวขอเสนอให้มีการแก้กฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ของโลกยุคปัจจุบัน เพื่อให้คนนำทรัพย์สินส่วนตัวออกมาใช้ทำมาหากินได้อย่างกว้างขวาง สร้างเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันกฎหมายที่ชัดเจนยังช่วยลดความขัดแย้งระหว่างประชาชน”
แต่ความเห็นดังกล่าว ไม่ได้รับความสนใจจากภาครัฐ
ปัญหาที่เกิดขึ้น จากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง จากวินหนึ่งไปสู่อีกวินหนึ่ง กำลังกลายมาเป็นปัญหาที่ลุกลามใหญ่โต
วันนี้แค่บาดบาดเจ็บ หรือในอนาคตเหมือนที่วินจักยานยนต์รับจ้างแห่งหนึ่งให้นิยามไว้
“ถ้าจะแก้ปัญหาต้องแก้ที่ต้นเหตุไม่ใช่ปลายเหตุ ที่โดนทำร้ายก็สมควรแล้ว เพราะมันต้องมีคนตายก่อน ถึงจะมีการแก้ไขให้ มันต้องกระทืบให้ตายก่อน”
ขอบคุณข้อมูล : Amarin
บทความโดย : วัฒนา อ่อนกำลัง