ขณะที่หลายพรรคการเมืองเปิดฉากตอบโต้ดุเดือด เลือกคู่ชก ซัดกันไม่ยั้ง เรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ใส่กันแหลก เรียกเสียงเฮจากกองเชียร์แฟนคลับ เพื่อสร้างความจดจำแก่สังคม
แต่สำหรับภูมิใจไทย พรรคการเมืองไซส์กลาง แต่อยากใหญ่กลับมีการเคลื่อนไหวที่แตกต่างออกไป เนื่องจากปลีกตัวออกจากประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง ไม่เอาใจสายฮาร์ดคอร์ แต่มุ่งเอาจริงเอาจังเรื่องนโยบาย พยายามโชว์ความตั้งใจให้สังคมเห็นมากที่สุด
ภาพชัดเจนสะท้อนผ่านงานนำเสนอแนวคิดก่อนปั้นเป็นนโยบายที่ได้พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ อดีตรอง กสทช. มาเป็นไฮไลท์ ประกาศร่วมทีมยุทธศาสตร์พรรคภูมิใจไทย ดูแลงานด้านดิจิตอล อีโคโนมี เต็มรูปแบบ
ทั้งนี้ หากฟังจากที่นายอนุทิน พูดในวันดังกล่าวจะพบว่า แนวทางของพรรค เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ ลื่นไหลไปกับเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร หรือที่เรียกกันว่า “ธุรกิจแบ่งปัน หรือแชร์ริ่งอีโคโนมี” ที่สร้างชุมชนออนไลน์ และเปิดโอกาสให้สมาชิกในชุมชนยืมทรัพย์ส่วนตัวตามข้อตกลง
สำหรับประเทศไทย ยังเป็นเรื่องใหม่ และไม่สอดคล้องกับกฎหมาย ในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องได้ “มืออาชีพ” ทั้งในด้านเทคโนโลยี และกฎหมายมาช่วยดูแล
คำตอบลงล็อกที่ พันเอก ดร. เศรษฐพงค์ เพื่อปั้นฝันของนายอนุทิน ให้เป็นจริง
เปลี่ยนให้คนไทยทุกคนสามารถหารายได้จากมือถือและทรัพย์สินที่อยู่ในมือ
ขณะที่ในเรื่องการศึกษา นายอนุทิน มีแนวคิดแก้หนี้ กยศ. ด้วยการให้ความสำคัญกับความไม่เป็นธรรมของกฎหมายการเรียกคืนหนี้ ทั้งการเรียกคืนเงินในอัตราก้าวหน้า บวกเบี้ยปรับมหาศาล ต้องเร่งแก้ไข
นอกจากนั้น ยังมีแนวคิดเรื่องการสร้างมหาวิทยาลัยออนไลน์ หรือ Thailand sharing university เปิดโอกาส ให้บุคคลซึ่งเต็มไปด้วยข้อจำกัด มีโอกาสศึกษาจนจบปริญญาตรี
งานบูรณาการด้านการศึกษาเหล่านี้ พรรคภูมิใจไทย ได้มือดีมาช่วย
วันที่ 12 ตุลาคม นายอนุทิน จัดการเปิดตัว ดร.พะโยม ชิณวงค์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน มาดูแลงานด้านนี้โดยเฉพาะ
ขณะที่นโยบายด้านการท่องเที่ยว นายอนุทิน มองไปที่ “บุรีรัมย์โมเดล” ที่ประสบความสำเร็จในฐานะเมืองจุดหมายปลายทางด้านกีฬา มีรายได้ตลอดปี ถึงมือทุกคนในพื้นที่
นายอนุทินวางตัวกระบี่มือหนึ่งไว้ 2 คน คือ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลซึ่งปลุกปั้นบุรีรัมย์จากเมืองนอกสายตา สู่ให้กลายเป็น Sport city ระดับโลก
อีกหนึ่งบุคคลคือนักประสัมพันธ์ฝีมือเยี่ยม อดีตทีมงานหาเสียงของประธานธิบดี “บิล คลินตัน” และผู้บริหารระดับสูงหลายบริษัท อย่างนายจุลภาส “ทอม” เครือโสภณ
เท่านี้ ก็เรียกเสียงฮือฮาให้กับพรรคภูมิใจไทย ชนิดที่กินหน้าสื่อไปได้ 2-3 วัน
และในระยะยาว เชื่อว่าแนวทางของภูมิใจไทย กำลังผลิดอกออกผล สะท้อนผ่านผลโพลล่าสุด
“สวนดุสิตโพล” สำรวจความคิดเห็นประชาชน ถึงสเปกของพรรคการเมืองและ ส.ส.ที่ประชาชน อยากจะได้เข้าไปบริหารประเทศ คำตอบที่ได้รับสร้างรอยยิ้มให้กับนายอนุทิน และทีมงานพรรคภูมิใจไทย
เพราะในคำถามเรื่อง พรรคการเมืองแบบใด? ที่จะทำให้ตัดสินใจเลือกผู้สมัครพรรคนั้นๆ เป็น ส.ส.
คำตอบที่ได้รับคือ
อันดับ 1 มีนโยบายดี ถูกใจประชาชน ทำได้จริง เน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 53.83%
อันดับ 2 เป็นพรรคที่เข้มแข็ง มั่นคง มีอุดมการณ์ 35.71%
แนวทางของนายอนุทิน กำลังมาถูกทาง
ณ จุดนี้ สำหรับพรรคภูมิใจไทยแล้ว การเมือง คือการไม่เล่นการเมือง
Ringsideการเมือง