นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความเคลื่อนไหวส่วนตัว ว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีโอกาสเดินทางไปบรรยายให้กับนักศึกษาคณะรัฐสาสตร์ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ไปแชร์ประสบการณ์ในการทำงานทั้งด้านธุรกิจและการเมืองให้กับนักศึกษาฟังถึงการเข้ามาทำงานการเมืองและการบริหารงานทางด้านธุรกิจ ซึ่งเป็นการบรรยายครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากนี้จะต้องไปเรียนที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ.อย่างเต็มที่
ในขณะเดียวกันการในส่วนของการเมืองนั้น พรรคภูมิใจไทยถือว่าได้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาร่วมกันทำงาน อาทิ พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ อดีตรองประธาน กสทช. ในขณะเดียวกันพรรคก็พร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานให้กับพันเอก ดร.เศรษฐพงค์ ในการทำงานเพื่ออนาคตของประเทศ เชื่อว่า ท่านจะช่วยในการกำหนดนโยบายให้กับประเทศได้อย่างแน่นอน
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับพรรคภูมิใจไทยจะไม่พูดเรื่องการเมืองมากนัก แต่จะเน้นในการหาแนวทางในการแก้ปัญหาให้กับประชาขนมากกว่า พร้อมทั้งการระดมแนวคิด ระดมสมองจากผู้รู้มาช่วยกันทำงานให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดเพราะที่ผ่านมาประเทศยังมีปัญหาหลายอย่างต้องเร่งกันทำงาน
ส่วนการผลักดันแนวคิด ลดอำนาจรัฐเพิ่มอำนาจประชาชน มาจากการมองว่า รัฐต้องเป็นผู้ให้บริการ ประชาชนถ้าต้องการทำงานสุจริต หารายได้สุจริต รัฐต้องสนับสนุนทุกช่องทาง การนำแนวคิดนี้มาใช้ก็เพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องคนไทย เพราะเป็นภารกิจเร่งด่วน เช่นเดียวกับปัญหา กยศ. ก็ต้องแก้ไขให้นักเรียนนักศึกษา ได้ลดภาระจากการกู้ กยศ. ขณะเดียวกันต้องไม่ทำลายระบบการคลัง
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า สำหรับการแก้ปัญหาให้กับภาคเกษตร เสนอให้นำแนวคิดในการนำระบบโปรฟิท-แชร์ริ่ง หรือ ระบบการแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างเกษตร กับผู้ประกอบการ มาเป็นแนวคิดในการเพิ่มรายได้กับเกษตรกร โดยคำนึงถึงต้นทุนของแต่ละฝ่ายเขามาใช้ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีแผนยุทธสาสตร์ชาติ มีรัฐธรรมนูญ ก็ต้องไปดูว่าแนวคิดของตนจะไปขัดกับกฎหมายหรือไม่
“ในฐานะนักการเมืองเราตั้งใจที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีให้กับประชาชน พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมในการนำเสนอผู้สมัครส.ส.เป็นตัวเลือกให้กับประชาชน ซึ่งตนและผู้สมัครทุกคนพร้อมทำงานให้กับประชาชนทุกคน ส่วนจะได้จำนวนส.ส.กี่คน ขึ้นอยู่กับประชาชน หากผลออกมาแล้วไม่ประสบความสำเร็จก็เป็นหน้าที่ของเราในการพัฒนาตัวเองต่อไป” นายอนุทินกล่าวในที่สุด