นายธวัชชัย ฤกษ์เกลี้ยง หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากกรณีปัญหาราคายางพาราและปาล์มน้ำมันตกต่ำ ซึ่งปัจจุบันน้ำยางสดอยู่ที่กิโลกรัมละ 35-38 บาท ส่วนปาล์มน้ำมันอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 2.60-2.80 บาท ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยสภาเกษตรกรจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นตัวแทนเกษตรกรเคยยื่นข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน ทั้งระยะสั้นและระยะยาวต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2560 ขณะเดินทางมาปฏิบัติภารกิจตรวจพื้นที่น้ำท่วมที่จังหวัดตรัง
โดยเฉพาะแนวทางระยะสั้น เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร มีทั้งหมด 4 ข้อ
ประกอบด้วย 1.ให้รัฐบาลชดเชยแก่เกษตรกรในส่วนต่างของปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้ กับราคาต้นทุนการผลิตปาล์มน้ำมันต่อกิโลกรัม (กก.) ราคาต้นทุน 3.60 บาท 2.ให้ยกเลิกประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โดยให้ใช้มาตรฐานสินค้าเกษตรของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แทน 3.ควบคุมปัจจัยการผลิตไม่ให้มีราคาสูง เช่น ปุ๋ยเคมี และ 4.ให้ยกเลิกประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง เงื่อนไขการนำเข้าปาล์มน้ำมันจากราชอาณาจักรกัมพูชา 2556 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2556
แต่ปรากฏว่า หลังจากมีการยื่นหนังสือตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่มีการแก้ไขแต่อย่างใด ขณะที่เกษตรกรยังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากราคาปาล์มน้ำมันที่ตกต่ำต่อเนื่อง
นายธวัชชัยกล่าวว่า สภาเกษตรกรจังหวัดตรังจึงเตรียมยื่นหนังสือติดตามทวงถามความคืบหน้าจาก พล.อ.ประยุทธ์ผ่านทางจังหวัดตรังในเร็วๆ นี้ พร้อมกับจะเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาด้านเกษตรกรรมภายในจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2562 ทั้งปาล์มน้ำมันและยางพาราต่อนายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังด้วย เช่น การสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนแก่เกษตรกรชาวสวนยางพารา ด้วยการส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่มชาวสวนยาง เพื่อรวบรวมจำนวนแปลงปลูก จัดทำฐานข้อมูลสมาชิกกลุ่ม สนับสนุนให้มีการจัดตั้งบ่อน้ำยางสด ความจุ 1 ตัน และสนับสนุนสหกรณ์ที่รวบรวมน้ำยางสด จัดตั้งโรงงานปั่นน้ำยางข้น เพื่อจำหน่ายหรือแปรรูปในเครือข่ายสถาบันเกษตรกร อำเภอละ 1 จุด รวม 10 จุด 10 อำเภอ เสนอให้มีการจัดตั้งตลาดกลางยางพาราในจังหวัดตรัง ที่ อ.เมืองตรัง