นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึง กรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าอนาคตจะเกิดการรัฐประหารว่า หากทุกฝ่ายในบ้านเมืองเล่นตามกติกา ไม่เล่นนอกกติกา เคารพกฎหมาย และแก้ปัญหาตามระบบประชาธิปไตย และไม่นำพาเหตุการณ์ไปสู่เงื่อนไขให้อำนาจนอกระบบเข้ามาก็ไม่ต้องกังวลจะเกิดสถานการณ์ดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยก็คือเล่นตามกติกา และคำนึงถึงชาติบ้านเมืองเป็นหลัก และความอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชน พร้อมปัญหาปากท้องของเขาและทำให้สังคมมีความสงบสุข คนในชาติมีความสามัคคีเป็นปึกแผ่น เพราะตนเชื่อว่าประชาชน เบื่อทะเลาะเบาะแว้งทางการเมืองตลอดระยะเวลา10 กว่าปีที่ผ่านมาแล้ว
“ ที่ผ่านมาระบอบรัฐสภาดีอยู่แล้ว กลับไม่ใช้กติกา เท่ากับเปิดโอกาสทำให้ระบอบอื่นเข้ามาจัดการบ้านเมือง แล้วคนที่อยู่ในระบบก็แพ้หมด ถูกกันออกไปนอกเวที แต่ก็โทษคนที่เข้าก็ไม่ได้ เพราะคนที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตย ไม่เคารพคำว่าประชาธิปไตย ไม่เคารพเสียงข้างมาก ดังนั้นหากทุกฝ่ายเคารพรัฐธรรมนูญที่ตราไว้ชัดเจน ก็จะไม่มีทางสิ่งแปลกปลอมนอกระบอบเข้ามาและผมขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่ขอเติมฟืนเข้ากองไฟ ขออยู่อย่างสงบ สันติ ให้เกิดความสามัคคีในชาติ และพรรคภูมิใจไทยจะไม่ทำตัวมีปัญหาอย่างแน่นอน”
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังกล่าวถึงแนวทางจัดส่งผู้สมัครพรรคว่าต้องเป็นผู้สมัครที่มีคุณภาพ เนื่องจากถูกคัดกรองหลายด่าน ผ่านระบบไพรมารีโหวตในพื้นที่ของพรรค ถ้าใครได้ไม่ถึง 2 หมื่นคะแนนหมดสิทธิ์ลงในระบบเขตที่มีโอกาสชนะการเลือกตั้ง เพราะ ถ้ายังขืนส่งลงสมัครก็เหมือนไปหลอกประชาชน เราไม่ต้องการถูกเลือกด้วยคะแนนสงสาร ส่วนผู้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะส่งลงสมัครเรียงตามลำดับความสำคัญของผู้ที่มีส่วนสนับสนุนพรรค เกินลำดับที่ 10 ก็ไม่รับประกันว่าจะได้ส.ส.แล้ว เพราะพรรคภูมิใจไทยเน้นชนะเขตเลือกตั้ง
“พื้นที่ไหนมีคะแนน 2 หมื่นขึ้นไป ชื่อจะปรากฏบนแอปพลิเคชันดาต้าแบงก์ ซึ่งโชว์คะแนนนิยมของผู้ที่จะลงสมัครแต่ละคนทันที ใครคะแนนไม่ถึงรายชื่อก็หลุด โปรแกรมนี้หลอกตัวเลขไม่ได้ และหากมีคะะแนนของคนใหม่มากกว่าคนเดิม จำเป็นจะต้องเอาคนใหม่ที่มีคะแนนสูงกว่าเข้ามาแทน ซึ่งผู้สมัครทุกคนรับทราบแนวทางนี้เพราะมีความเป็นมืออาชีพตามมาตราฐานภูมิใจไทยสแตนดาร์ด” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยระบุ