ดร.ธีระชัย แสนแก้ว นายกสมาคมชาวไร่อ้อยอีสานเหนือ และทีมยุทธศาสตร์ภาคการเกษตรของพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาล ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการแก้ไขของ สนช. ว่า
ขอคัดค้านการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ทุกวิถีทาง เนื่องจากภาครัฐกำลังทำลายความสามัคคีในกลุ่มชาวไร่อ้อยและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมไปกับทำลายระบบแบ่งปันรายได้ ที่ยกระดับความเป็นอยู่ของชาวไร่อ้อยมาร่วม 35 ปีเต็ม
สำหรับเรื่องสำคัญในประเด็นดังกล่าวคือ ในอดีตพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลเปิดโอกาสให้ชาวไร่อ้อย โรงงานอ้อย และส่วนราชการร่วมกันส่งตัวแทนเข้ามากำหนดราคา พร้อมกับแบ่งปันรายได้จากการขายอ้อย ผ่านการประเมินราคาล่วงหน้า ซึ่งตัวแทนแต่ละฝ่ายจะจัดสรรผลประโยชน์ให้เกษตรกร และพ่อค้าสามารถดำรงอาชีพได้ อย่างมีความสุข
ตัวแทนของชาวไร่อ้อย คือ สถาบันชาวไรอ้อย มีคุณสมบัติที่สำคัญ ประกอบไปด้วย ต้องมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 600 คน ต้องส่งอ้อยให้โรงงานไม่น้อยกว่า 55% ของกำลังหีบโรงงาน
แต่กฎหมายที่อยู่ในขั้นตอนการแก้ไข ได้ยกเลิกคุณสมบัติดังกล่าวทิ้ง ส่งผลให้ใครก็สามารถตั้งสถาชาวไร่อ้อยได้ ซึ่งไม่มีการรับประกันเลยว่าสถาบันที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่ เป็นตัวแทนชาวไร่อ้อย หรือเป็นตัวแทนกลุ่มไหนกันแน่
ที่น่ากังวลยิ่งกว่า หากสถาบันใหม่ ซึ่งอาจไม่ใช่ตัวแทนชาวไร่อ้อยที่แท้จริง ได้เข้าไปประชุมกับผู้แทนโรงงาน และภาครัฐเพื่อกำหนดราคาอ้อย พวกเขาจะทำหน้าที โดยคำนึงถึงปากท้องของเกษตรกรชาวไร่อ้อยหรือไม่
นอกจากนี้ ร่างพ.ร.บ.ฯดังกล่าวยังกำหนดปรับปรุงรายได้จากผลพลอยได้ของการผลิตอ้อยและน้ำตาลทรายแต่ไม่มีการระบุหรือจำแนกย่อยลงไปว่ารายได้ที่จะเข้าระบบดังกล่าวมีอะไรบ้างที่เป็นผลพลอยได้ แต่ให้อำนาจคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.)ไปหารือร่วมกัน ซึ่งชาวไร่เห็นว่าควรจะระบุให้ชัดเจนไปเลย ส่วนประเด็นอื่นๆ ทางชาวไร่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร
“พรบ.อ้อยและน้ำตาลทราย 2527 ที่ใช้มา ตนเห็นด้วยที่จะมีการแก้ไข แต่ควรแก้ไขเป็นบางมาตราเพื่อให้ทันสมัยขึ้น เพราะอ้อยสามารถนำไปทำอย่างอื่นได้หลายอย่างเช่น เอทานอล ไฟฟ้า และบายโปดักต่างๆอื่นๆมิใช่ทำได้แค่น้ำตาลอย่างเดียว”
นายกสมาคมชาวไร่อ้อยอีสานเหนือ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในอดีตราคาอ้อยถูกกำหนดโดยกลไกภายในประเทศ แต่ปัจจุบัน มีการใช้ ม.44 เพื่อกำหนดราคาอ้อยลอยตัวตามตลาดโลก ซึ่งทำให้ราค้าอ้อยมีแต่ทรงกับทรุด ยังดีที่กฎหมายอ้อยและน้ำตาลกำหนดให้ใช้ระบบตกลงรายได้ระหว่างเกษตรกร โรงงาน และภาครัฐ จึงทำให้เกษตรกร สามารถดำรงชีพอยู่ได้ ดังนั้น จึงไม่สนับสนุนให้มีการแก้ไขกฎหมายที่ไปกระทบกับระบบแบ่งปันรายได้ ที่กำลังดำเนินอยู่ หวังว่าที่สุดแล้ว ภาครัฐจะเห็นใจประชาชน ที่เป็นเกษตรกร