เพจ “คนภูมิใจไทย” เผยแพร่เอกสารคำพิพากษาของผู้กู้ กยศ.รายหนึ่ง ซึ่งถูกฟ้องโดย กยศ. ให้ชำระเงินตามกำหนด ที่ประกอบไปด้วยเงินต้นคงค้าง ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับอัตราดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือน หรือ 18% ต่อปี(ตามเอกสาร) ที่ศาลพิพากษาให้โจทก์ลดเบี้ยปรับลง เนื้อหาดังนี้
“โจทย์มีสิทธิ์ฟ้องบังคับให้จำเลยร่วมกันชำระต้นเงินและดอกเบี้ยตามสัญญาแก่โจทย์ แต่ที่โจทย์คิดเบี้ยปรับร้อยละ 1.5 ต่อเดือน หรือร้อยละ 18 ต่อปี เป็นค่าเสียหายที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเมื่อลูกหนี้ผิดนัด จึงมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมายแพ่งและพานิชย์มาตรา 376 ซึ่งหากสูงไป ศาลมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์มาตรา 373 วรรคแรก เพื่อพิเคราะห์ถึงทางได้เสียของโจทย์ทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมาย ประกอบกับวัตถุประสงค์ของโจทย์ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์รองรับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ทัดเทียมกับอารยะประเทศ รวมทั้งเปิดโอกาสให้กับผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ มีโอกาสได้รับการการศึกษาอย่างทัดเทียมกับผู้มีฐานะดีแล้ว
เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยผิดนัดที่โจทก์คิดจากจำเลยเป็นอัตราที่สูงเกินไป ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ จึงเห็นสมควรปรับลดเป็นอัตราร้อยละ 6 ต่อไป นับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์”
สำหรับพรรคภูมิใจไทย มีแนวคิดในการพักหนี้ กยศ.5 ปี และปลดภาระผู้ค้ำประกัน ก่อนหาแนวทางช่วยเหลือเพิ่มเติมตามความเหมาะสม เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้กู้มีโอกาสชำระเงินมากขึ้น
ทั้งนี้ เมื่ออ่านกฎระเบียบการชำระหนี้ กยศ. จะพบว่า มีระยะเวลาผ่อนผัน 2 ปี ก่อนเริ่มจ่ายต่อเนื่อง 15 ปี หากผิดนัด 1 ปี ต้องเสียค่าปรับ 18% ของเงินที่ต้องชำระในงวดนั้น