ด้วยโลกยุคใหม่ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้ใครไม่รู้จักโลกของโซเชียลเน็ตเวิร์ค ลูกเด็กเล็กแดงรู้จักหมด หากใครที่ยังไม่มีเฟซบุ๊กหรือไลน์ คงจะต้องถามกันว่ามาจากโลกไหน ดังนั้นโลกของโซเชียลจึงมีอิทธิพลมากในสถานการณ์ปัจจุบัน
การนำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับชีวิตในปัจจุบัน จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก เพราะหากผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงโซเชียลเน็ตเวิร์ค ก็หมายถึงกำลังซื้อมหาศาลที่รออยู่เพียงแต่นำเสนอสินค้าถูกที่ถูกเวลา หรือเป็นที่สนใจก็นำมาซึ่งยอดขายที่ประมาณการณ์ไม่ได้
ล่าสุดจากการสำรวจของ ดิจิทัลเอเยนซี่ และ “Hootsuite” ผู้ให้บริการระบบจัดการ Social Media และ Marketing Solutions ได้รวบรวมสถิติการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลก เพื่อฉายภาพการเปลี่ยนแปลงทั้งภาคธุรกิจออนไลน์ และพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ ได้เผยว่าขณะนี้มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากกว่า 4,000 ล้านคนทั่วโลก การเติบโตของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว ได้แรงหนุนมาจาก “สมาร์ทโฟน” ที่ปัจจุบันมีรุ่นราคาไม่แพงออกมาวางจำหน่ายมากมายหลากรุ่น หลายแบรนด์ ทำให้ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่าย และสะดวกขึ้น
จากการสำรวจพบว่า ประเทศไทยมีประชากร 69.11 ล้านคน (53% อยู่ในเขตเมือง) แบ่งเป็นประชากรผู้หญิง 51.3% – ผู้ชาย 48.7% มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 57 ล้านคน มีผู้ใช้งาน Social Media มากถึง 51 ล้านคน มีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ สูงถึง 93.61 ล้านเลขหมาย มากกว่าจำนวนประชากรทั้งประเทศ ในจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมด มีผู้ใช้ Social Media เป็นประจำผ่าน Smart Device 46 ล้านคน
คนไทยใช้เวลาเข้าอินเทอร์เน็ตต่อวันมากที่สุดในโลก กรุงเทพฯ ยังคงครองแชมป์เมืองที่มีผู้ใช้ Facebook มากสุดในโลก แสดงให้เห็นชัดเจนว่าปัจจุบัน “ประเทศไทย” เป็นประเทศที่ใช้เวลาต่อวันอยู่กับอินเทอร์เน็ตมากที่สุดในโลก (รวมทุกอุปกรณ์) โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 9 ชั่วโมง 38 นาทีต่อวัน และถ้าวัดเฉพาะการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟน “ไทย” ยังคงเป็นประเทศที่ใช้เวลาท่องเน็ตต่อวันมากที่สุดในโลกเช่นกัน โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4 ชั่วโมง 56 นาที
นอกจากนี้ คนไทยยังใช้เวลาในการเล่น Social Media โดยเฉลี่ย 3 ชั่วโมง 10 นาทีต่อวัน ถ้าวัดทัศนคติในการใช้ดิจิทัลในกลุ่มคนไทย พบว่ามากถึง 68% เชื่อว่าเทคโนโลยีใหม่ จะช่วยสร้างโอกาส มากกว่าเป็นเรื่องของความเสี่ยง เพราะจากการสำรวจพบว่าคนไทย 51 ล้านคนใช้ Social Media
พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ อดีตรองประธาน กสทช. ทีมยุทธศาสตร์พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยไปเร็วมาก โลกเทคโนโลยีเข้าสู่กลุ่มคนทุกกลุ่มตั้งแต่ชนชั้นนำ ชั้นกลางจนถึงรากหญ้า เกษตรกร ดังนั้น การเข้ามาทำงานการเมืองนั้น ก็มีความปรารถนาจะเข้ามาเพื่อเดินหน้าในการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาสู่การพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง โดยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาสอดแทรกในการสร้างประโยชน์ให้กับทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตร ให้กับประชาชน
“การทำงานการเมืองในแบบของตนคือการทำงานทางการเมืองจริง ๆ ไม่ใช่เข้ามาเล่นการเมือง แต่เข้ามาทำงานทางการเมือง เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ในการนำเสนอการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขายสินค้า การนำเสนอสินค้า หรือการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการปรับปรุงการทำงาน รวมทั้งการขายสินค้าไปต่างประเทศ การติดต่อสื่อสารผ่านโลกโซเชียลทำได้มากกว่านั้น ดังนั้น ความตั้งใจในการเข้ามาทำงานการเมืองคือนำเอาสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว คือเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพี่น้องประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” นี่คือสิ่งที่ พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ เน้นย้ำ
สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยกำลังคิด กำลังทำ เป็นสิ่งที่นำเอาสิ่งที่คิดเป็นและทำได้ มาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน ทุกอย่างพร้อมนำเสนอมาเป็นแผนงานระดับชาติ สุดท้ายการจับมือกันเดินไปข้างหน้าคือสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งหมดนี้เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน
วัฒนา อ่อนกำปัง ทีมข่าวริงไซด์การเมือง รายงาน