นายธีระชัย แสนแก้ว นายกสมาคมชาวไร่อ้อยภาคอีสานตอนบน และทีมยุทธศาสตร์ภาคการเกษตรของพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยสถานการณ์ราคาอ้อยในขณะนี้ว่า กำลังย่ำแย่ ทั้งที่เราส่งออกเป็นอันดับสองของโลก และราคาน้ำตาลก็ไม่ได้ปรับตัวลง ถามว่าทำไมราคาถึงตกต่ำ ก็มาจากประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของรัฐ โดยต้นทุนการผลิตอ้อยของเราอยู่ที่ประมาณ 1,100 บาทต่อตัน แต่ราคาอ้อยที่คิดคำนวณในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 650 บาท โดยในช่วงที่ผ่านมาทางสมาคมได้เดินสายรับข้อเรียกร้องได้ข้อสรุปว่า ให้ปรับราคาอ้อยขั้นต้นอยู่ที่ 700 กว่าบาท เพราะราคาน้ำตาลปรับตัวขึ้น แต่กระทรวงอุตสาหกรรมกลับประเมินให้อยู่ที่ 680 บาทต่อตันเท่านั้น
นายธีระชัย ระบุว่า ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ชาวไร่อ้อยกว่า 2,000 คน จะเดินทางไปที่กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อจะบอกว่าพวกเราไม่รับตัวเลข 680 บาท พร้อมนำเสนอตัวเลขที่ควรจะเป็นคือ ไม่ต่ำกว่า 700 บาท เพราะยังอยู่ในช่วงประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากผู้แทนชาวไร่อ้อยและผู้แทนโรงงานน้ำตาลทราย ก่อนนำเสนอคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) พิจารณาเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป รวมถึงจะไปคัดค้านร่าง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทรายฉบับใหม่อีกด้วย
นายกสมาคมชาวไร่อ้อยภาคอีสานตอนบน ระบุอีกว่า เรื่องของราคาอ้อยและน้ำตาล มีระบบที่น่าประทับใจกว่าสินค้าเกษตรชนิดอื่นคือหลัก “โปรฟิท แชร์ริ่ง” ภายใต้ พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ.2527 เช่น การมีเงินกองทุนมาเป็นหลักประกัน แต่ดูเหมือนจะมีความพยายามเปลี่ยนแปลงบางหลักการ อาจจะเปิดทางให้ชาวไร่อ้อยปลอม สวมสิทธิ์เข้าร่วมกรรมการ 3 ฝ่าย ส่งผลให้ใครก็สามารถตั้งสภาชาวไร่อ้อยได้ กำหนดราคา และทำลายระบบแบ่งปันรายได้ โดยเฉพาะล่าสุดมีการพูดกันว่าที่ผ่านมามีกลุ่มทุนใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากราคาอ้อยที่ตกต่ำ อันเป็นผลมาจากการประกาศกฎหมายพิเศษมาจัดการเรื่องราคาอ้อยและน้ำตาลแบบเร่งรีบ ซึ่งส่อว่ามีผลประโยชน์ทางการเมืองแอบแฝงหรือไม่