มิใช่เพียงแต่รัฐบาลที่กำลังตกที่นั่งลำบากจากปัญหาวิกฤติราคาปาล์ม และราคายางพาราที่ทรุดลงทุกวัน
แต่สำหรับพรรคเก่าแก่ขวัญใจพี่น้องภาคใต้ ปัญหานี้ กำลังบั่นทอนความนิยมของพรรคมากขึ้นเรื่อยๆ
หากย้อนกลับไป “พรรคประชาธิปัตย์” คือหัวขบวนในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวสวนยางและสวนปาล์มอย่างแข็งขัน
ในยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้พืชผลจะมีราคาดีกว่านี้มาก แต่ ส.ส.พรรคเก่าแก่ไม่เคยพอใจ และมักหาทางกดดันด้วยสารพัดวิธี ตั้งแต่การเปิดแถลงข่าว ยันขู่ระดมมวลชน ไปจนถึงการขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง เพื่อให้ได้ราคาที่สูงกว่า
นับเป็นการแสดงบทบาทที่พึงกระทำ ในฐานะตัวแทนพี่น้องประชาชน
แต่มายุคสมัยนี้ กลับมีเพียงการให้ข่าวเป็นพิธีเท่านั้น ช่างแตกต่างกันอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อเทียบกับยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์
ท่าทีที่เปลี่ยนไปของพรรคการเมืองเก่า กระทบกับความรู้สึกชาวสวนปาล์ม สวนยางแน่นอน เพราะที่สุดแล้ว แม้บ้านเมืองจะอยู่ในระบบไหน พวกเขาล้วนหวังนักการเมืองเป็นที่พึ่ง แต่สิ่งที่ตอบแทนกลับมามีเพียงความเงียบเฉย
ความเงียบเฉยดังกล่าว ส่งผลให้สังคมอดคิดไม่ได้ว่า
พรรคประชาธิปัตย์ได้สมยอมกับผู้มีอำนาจในปัจจุบันแล้วหรือไม่ ???
จึงมิอาจสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมให้กับรัฐบาล เพื่อรักษาไมตรีทางการเมือง ปล่อยให้ชาวสวนปาล์ม สวนยาง ต้องเคลื่อนไหวตามลำพัง ไร้พลังต่อรอง จนจำไม่ได้แล้วว่าชาวสวนปาล์มเผาผลผลิตประท้วงไปแล้วกี่ตัน
กลับกัน กลายเป็นพรรคภูมิใจไทย ที่พูดถึงปัญหาปาล์มอย่างจริงจัง และพยายามเสนอทางออกให้กับปัญหานี้ โดยเฉพาะนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ที่รับหน้าที่ดูแลแนวคิดด้านการเกษตร ซึ่งเรียกระดมสมองจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
อาทิ นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ อดีตอธิบดีกรมวิชาการเกษตร นายเชาวลิต ศุภนคร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พีพีพี กรีนคอมเพล็กซ์ จำกัด นายกิตติชัย เอ่งฉ้วน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ นายพันศักดิ์ จิตรัตน์ กรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดกระบี่ และประธานคณะทำงานด้านปาล์มน้ำมันและพืชพลังงาน สภาเกษตรกรแห่งชาติ
นายอธิราษฎร์ ดำดี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ นายศุภกิจ นันทะวรการ นักวิจัยพลังงานและอุตสาหกรรม มูลนิธินโยบายและสุขภาวะ นายอัจฉริยะ นพรัตน์ อดีตประธานกลุ่มคลัสเตอร์อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มภาคใต้ นายสุริยา อยชานันท์ ที่ปรึกษาบริษัท ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด(มหาชน) นายชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ
จนได้ข้อสรุปว่า สมควรรนำปาล์มไปผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าอย่างจริงจัง ควบคู่ไปกับการผลิตน้ำมัน B100 เพื่อยกระดับราคาปาล์มอย่างยั่งยืน
ล่าสุดถึงขั้น เตรียมร่างกฎหมาย เปิดให้ประชาชนเข้ามาแสดงความเห็น
ปฏิเสธไม่ได้ว่า วันนี้ชื่อของพรรคภูมิใจไทย เริ่มติดหูคนใต้มากขึ้น
แต่ก็หาใช่คู่แข่งที่ประชาธิปัตย์ต้องอกสั่นขวัญแขวน เพราะเสมือนผู้ท้าชิงที่ยังอ่อนเดียงสาบนเวทีที่ไม่คุ้นเคย
ทว่า หากภูมิใจไทย มุ่งมั่นเดินหน้าเช่นนี้ไปเรื่อย กระทั่งมีโอกาสสร้างผลงานเป็นที่ถูกใจประชาชน
“อะไร ก็เกิดขึ้นได้”
Ringsideการเมือง