มติชน รายงานว่า วันนี้ (23 พ.ย.61) ที่เดอะไพน์ รีสอร์ท อ.สามโคก จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมจัดตั้งสาขาภาคกลางของพรรคภูมิใจไทย โดยกล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองในนามกลุ่มสหพรรคการเมือง ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอเลื่อนวันเลือกตั้งไปเป็นวันที่ 5 พฤษภาคม 2562 ว่า การเลือกตั้งมีกำหนดชัดเจนแล้วและทุกคนทราบดี ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 หรือต่อให้เลื่อนออกไปก็ไม่เกินเดือนพฤษภาคม สมาชิกพรรคภูมิใจไทยอย่างนายภราดร ปริศนานันทกุล ก็พูดชัดแล้วว่า ถ้าไม่พร้อมก็ขึ้นรถบัสคันใหม่ คนอื่นเขาพร้อมกันหมด ไม่พร้อมก็รอเที่ยวหน้า อย่ามาหยุดยั้ง อ้างนู่นอ้างนี่ ทุกพรรคมีเวลาเท่ากัน ไม่มีพรรคใหม่พรรคเก่า คนที่อยู่ในการเมืองต้องมีสัญชาตญาณ มีไหวพริบเพียงพอจะรู้ว่าการเลือกตั้งควรเกิดขึ้นช่วงไหน เลื่อนไปอีก 1-2 เดือนไม่มีความหมายอะไรที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งหรืออ่อนแรงลง
“พรรคภูมิใจไทยพูดเสมอว่าพร้อมเลือกตั้งตลอดเวลา ถ้าใครบอกว่าไม่พร้อมแล้วให้รอ ไปขึ้นรถไฟเที่ยวหน้าดีกว่า อย่าทำให้คนอื่นเสียเวลาด้วย”
เมื่อถามถึงกรณีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ 16/2561 ซึ่งให้อำนาจ กกต. ขยายเวลาการแบ่งเขตเลือกตั้ง นายอนุทินกล่าวว่า ยอมรับว่ามีสมาชิกหลายคนแสดงความกังวล แต่คำตอบเดียวของตนคือ ถ้าจะไปเป็นผู้แทนของประชาชน อยู่ที่ไหนก็เหมือนกันหมด คือมีหน้าที่ทำความนิยม ถ้าดูแล้วบางเขตไม่เหมาะสมกับตัวเองก็ไม่ต้องลงเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยคงไม่ไปขอให้กำหนดเขตเลือกตั้งตามใจพรรค เพราะเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของกกต.ว่าจะกำหนดอย่างไร ซึ่งพรรคก็พร้อมส่งผู้ที่เหมาะสมที่สุดลงต่อสู้ ไม่มีปัญหา
ส่วนการที่หลายฝ่ายวิจารณ์การทุ่มงบประมาณของรัฐบาลหลายหมื่นล้านบาทว่าเป็นการหาเสียงล่วงหน้านั้น นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของผู้บริหารบ้านเมือง คนที่ได้อานิสงส์คือประชาชน อะไรก็ตามที่ทำให้ความทุกข์ของประชาชนคลี่คลายและประชาชนมีรอยยิ้ม ไม่ว่าจะยั่งยืนหรือชั่วคราว พรรคก็ยินดีด้วย ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะมีผลต่อคะแนนเสียง พรรคยืนยันว่าไม่มีปัญหา เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง ประชาชนก็ต้องดูว่าใครที่ได้รับการเลือกตั้งไปแล้ว เข้าไปบริหารประเทศ ทำหน้าที่แทนเขาในสภา
เมื่อถามถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ อดีต ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ซึ่งมีข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าในวันเดียวกันนี้กลับไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาตามเดิม นายอนุทินกล่าวว่า ใครจะมาหรือไปถือเป็นสิทธิ อย่าไปลิดรอนสิทธิของเขา เราบริหารตัวเองให้ดีที่สุด ส่วนหากทั้ง 2 คนไปร่วมงานกับพรรคชาติไทยพัฒนา ตนก็ยินดีด้วย เป็นสิ่งที่ดีแล้ว ทุกคนเป็นพี่น้องกันทั้งนั้น
ขอขอบคุณ มติชน