นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ อดีต ส.ส.สระบุรี พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เปิดเผยการแบ่งเขตการเลือกตั้งทั่วประเทศพบว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งที่จังหวัดสระบุรี ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แม้เขตเลือกตั้งจะใหญ่ขึ้นแต่ในฐานะนักการเมืองต้องมีความพร้อมเปรียบเป็นนักรบไม่สามารถเลือกสนามรบได้ ต้องพร้อมทำงานในพื้นที่ที่มีการแบ่งออกมา แต่ก็อยากติงว่าบางพื้นที่ไม่ควรที่จะแบ่งเขตแบบข้ามเขต ซึ่งสร้างความลำบากให้กับประชาชนในพื้นที่เพราะบางพื้นที่มีการนำตะเข็บชายแดนไปรวมกับเขตในเมือง แม้ระยะทางไม่ไกลกันแต่การคมนาคมยังเข้าไม่ถึงการไปลงคะแนนหย่อนบัตรเลือกตั้งของประชาชนอาจจะประสบปัญหาได้
นายวัชรพงศ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย มีการเตรียมความพร้อมตลอดเวลา ล่าสุดผู้สมัครทั้ง 3 คน พร้อมแล้วในการเดินหน้าหาประชาชน ซึ่งในการคัดสรรผู้สมัคร พรรคประกาศชัดเจนว่าจะไม่ดูถูกประชาชน ดังนั้น ในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคจะยึดประชาชนเป็นหลัก โดยผู้สมัครทั้ง 3 คนทำงานร่วมกันมาโดยตลอด นอกจากนี้ ประเมินว่าการแข่งขันในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ ถือว่ารุนแรงมาก ทั้งเพราะมีหลายพรรคการเมืองในพื้นที่ ทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ รวมไปถึงประชาธิปัตย์ ที่เดินหน้าเสียงหาเสียงนั้น เชื่อว่าคะแนนแต่ละพรรคไม่น่าจะทิ้งกัน คนที่จะได้เป็น ส.ส.น่าจะได้ประมาณ 40,000-50,000 คะแนน
นายวัชรพงศ์ กล่าวด้วยว่า แม้การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งจะเข้มข้นขึ้น พรรคภูมิใจไทยยังเดินหน้าหาเสียงอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อมั่นว่านโยบายของพรรค ทั้งการพักหนี้ กยศ.การทำธุรกิจแบบจัดสรรปันส่วน และระบบการแบ่งปันผลกำไร รวมไปถึงภาพใหญ่คือลดอำนาจรัฐเพิ่มอำนาจประชาชน เป็นนโยบายที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยยังคงรักษาพื้นที่ในจังหวัดสระบุรีได้อย่างแน่นอน