นายอนันต์ แสงวัณณ์ นักสิทธิมนุษยชน สมาชิกพรรคภูมิใจไทย จ.ยะลา กล่าวถึงปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งล่าสุด นายดุลลาเต๊ะ ยายา อายุ 49 ปี นักการเมืองในพื้นที่ ถูกลอบยิงถล่ม ว่า
เป็นความรุนแรง ที่สืบมาจากปัญหาความไม่เข้าใจระหว่างรัฐ กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งดำรงอยู่มาอย่างยาวนาน เนื่องจากฝ่ายผู้มีอำนาจ ในทุกยุคทุกสมัยไม่ได้ตั้งใจแก้ไขอย่างจริงจัง ถึงวันนี้ ตามหน้าสื่อ มักปรากฎข่าวของการลอบทำร้าย แต่ในความจริง ยังมีปัญหาเรื่องการอุ้มคนในพื้นที่ กระทำโดยภาครัฐ มาในทุกยุคทุกสมัย
สำหรับตน ทำงานในพื้นที่ยะลาในฐานะนักกฎหมาย ทราบอารมณ์ ความรู้สึกของชาวบ้านเป็นอย่างดี เข้าใจว่าปัญหาความขัดแย้งทั้งหลายเกิดจากความไม่เข้าใจ ภาครัฐต้องเปิดใจบ้าง ฝ่ายผู้ก่อการต้องเปิดใจบ้าง ทั้งนี้ ภาครัฐ หากมองว่าเป็นตัวแทนประชาชนต้องกล้าปล่อยให้ประชาชนได้มีสิทธิ์ มีเสียง ขณะที่ภาครัฐต้องฟังมากขึ้น เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาความไม่สงบได้
“พรรคภูมิใจไทย มีแนวทางลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชน ตรงนั้น มันกินใจผมมาก และเป็นแนวทางแก้ปัญหา รัฐลองลดความเข้มงวดของตัวเอง กฎหมายทั้งหลาย ลองผ่อนคลาย แล้วมาคุยกับชาวบ้าน อาจจะมีทางแก้ปัญหาที่ดีกว่าเดิม ส่วนประชาชน ถ้าเขาอยากพูด รัฐต้องเปิดพื้นที่ให้พูด มันไม่มีคำว่าสายถ้าเราจะคุยกัน”
ด้านนายนิรันดร์ วายา สมาชิกพรรคภูมิใจไทย จ.ยะลา กล่าวว่า ทุกฝ่าย แก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ด้วยมิติของความมั่นคง โดยมองข้ามมิติด้านปากท้อง ตนชอบมุมมองของพรรคภูมิใจไทย ที่จะกำหนดให้เขตพื้นที่ภาคใต้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ สนับสนุนให้ตั้งโรงงาน เพิ่มความต้องการด้านแรงงาน สร้างเม็ดเงินสะพัด ส่วนตัวหวังให้นำเอาผลผลืตยาง ปาล์ม ไปแปรรูปด้วย ให้ชาวบ้านมีรายได้มั่นคง เพราะถ้าอยู่ดี กินดี เมื่อคนในพื้นที่เกิดความพอใจ เชื่อว่าความรุนแรงจะน้อยลงโดยธรรมชาติ