นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ถึงแนวคิดเรื่องระบบสาธารณสุขของประเทศ ว่า เราสนับสนุนให้การรักษาผู้ป่วยมีประสิทธิภาพโดยใช้ระบบโทรเวชกรรม Telemedicine หรือ “เทเลเมด” เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงาน ปัญหาของระบบสาธารณสุขของไทยในปัจจุบัน คือผู้ป่วยเกือบทุกคน มุ่งหน้าสู่โรงพยาบาล ทั้งที่ไม่มีความจำเป็น แต่เพราะความไม่รู้ การขาดที่ปรึกษาที่ดีพอ เมื่อเกิดความตระหนักตกใจ ต้องไปโรงพยาบาล ทำให้บุคลากรทางการแพทย์รับงานหนักเกินและใช้งบประมาณมากเกินความจำเป็น รวมไปถึงการเดินทางทำให้ประชาชนเสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ที่จริงแล้วคนไข้เหล่านี้สามารถรักษาที่บ้านหรือหมอประจำหมู่บ้านหรือ อสม.ได้ ด้วยการใช้เทคโนโลยี “เทเลเมด” สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน เพราะไม่ต้องให้ผู้ป่วยมาที่โรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลก็สามารถส่งยาผ่านระบบการส่งยาเคลื่อนที่จากโรงพยาบาลสู่ผู้ป่วยได้ แล้วจะยิ่งทำให้ระบบการแพทย์ทางไกลโดยใช้เทคโนโลยีครบวงจรเกิดขึ้นจริงได้อย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ปัจจุบันอัตราการเสียชีวิตระหว่างการลำเลียงผู้ป่วยไปโรงพยาบาลมีตัวเลขที่สูงมาก หรือที่เราเรียกว่า “ตายก่อนถึง” เราสามารถที่จะลดอัตราการเสียชีวิตได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีข้างต้น โดยบุคลากรทางการแพทย์ในรถฉุกเฉินสามารถสื่อสารกับหมอผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลระหว่างทาง อีกทั้งสามารถที่จะใช้กล้องที่เชื่อมโยงกับระบบ 4G หรือ 5G ทำให้สามารถที่จะมองเห็นสถานการณ์ของผู้ป่วยได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะลดอัตราการเสียชีวิตได้มาก หากมีการสื่อสารระหว่างทางอย่างเรียลไทม์
“ดังนั้นหากรัฐสามารถทำให้ อสม.ใช้ระบบ “เทเลเมด” เชื่อมต่อเข้ากับโรงพยาบาลศูนย์เพื่อให้หมอผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้วยการเห็นหน้ากันผ่านสมาร์ทโฟน รวมไปถึง อสม.และประชาชนผู้ป่วยทั่วไปยังสามารถใช้สมาร์ทโฟนในการเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสาธารณสุขในการรักษาเบื้องต้น โดยรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขจะต้องวางโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูลและการเข้าถึงข้อมูลด้วยความง่ายดายและมีประสิทธิภาพไม่ว่า อสม. ประชาชน และแพทย์ ก็สามารถเข้าใช้ด้วยความรวดเร็วและตลอดเวลา” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว
ขอบคุณข่าว : ไทยรัฐ