นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวหลังลงพื้นที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า พี่น้องลูกหลานย่าโมต้อนรับอย่างอบอุ่น สำหรับจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ มี ส.ส.ถึง 14 คน พรรคภูมิใจไทย ส่งสู้ศึกเลือกตั้งทุกเขต โดยไม่ได้หวังไปเก็บคะแนน เพราะแบบนั้นเหมือนดูถูกประชาชน แต่พรรคภูมิใจไทยหวังชนะ ทั้งนี้ ผู้สมัครในพรรคล้วนเป็นคนมีคะแนนนิยมในพื้นที่ และกว่าจะได้ลงในนามพรรค ก็ต้องแข่งขันมาหลายขั้นตอน รับประกันได้ว่ามีแต่คนดี คนเก่ง ประชาชนเลือกไปทำงานแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
สำหรับกรณีที่ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทยกล่าวว่าพรรคภูมิใจไทยไม่มีกระแส ต้องแพ้การเลือกตั้งในพื้นที่อีสาน นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านเฉลิมเป็นผู้ใหญ่ทางการเมือง ตนเคารพท่าน เจอกันต้องเข้าไปสวมกอด เห็นท่านสบายดี ตนก็สบายใจ ส่วนที่บอกว่าพรรคไม่มีกระแสนั้น ถือเป็นคำเตือนจากผู้หลักผู้ใหญ่ พูดกันตรงๆ ยิ่งดี จะได้ไปเคี่ยวผู้สมัครให้ลงพื้นที่ทำงานให้หนักขึ้น ให้คิดเสียว่าท่านหวังดี ไม่อยากให้เราประมาท
เมื่อถามเหตุผลที่ไม่ปรากฏสมาชิกของพรรคภูมิใจไทยในงานเลี้ยงโต๊ะจีนพรรคพลังประชารัฐ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนรู้จักพวกท่านอยู่แล้ว ไม่ต้องไปนั่งร่วมโต๊ะจีน ที่สำคัญ วันนั้นตนเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนสมาชิกพรรคคนอื่น ก็ติดลงพื้นที่กันหมด แต่ละพื้นที่มีปัญหาให้ต้องแก้ไข ต้องไปรับฟัง พรรคภูมิใจไทยทำงานหนัก ทุกวินาทีมีค่า ที่สำคัญงานที่จัด มันไม่เกี่ยวอะไรกับพรรคเรา เหตุผลมีแค่นี้ ดังนั้น โปรดอย่ามาคิดเป็นเรื่องการเมือง ไม่มีนัยยะอะไรทั้งสิ้น
ส่วนกรณีที่สนับสนุนให้มีการออกกฎหมายคุ้มครองแกร็บ จนอาจเสียคะแนนนิยมในกลุ่มแท็กซี่ นายอนุทิน ตอบว่า จะเสียคะแนนได้อย่างไร แท็กซี่ก็มาขับแกร็บได้ ดีเสียอีก เป็นรายได้เสริมนอกจากการขับแท็กซี่ตามปกติ แถมยังปลอดภัยด้วย เพราะแกร็บเขามีข้อมูลผู้โดยสาร แนวคิดของเราไม่ทำลายใครอยู่แล้ว กลับกัน เราต้องการสร้างโอกาสให้ประชาชนมีหนทางการทำมาหากินมากขึ้น ปัจจุบัน เรามีกฎหมายล้าหลังเต็มไปหมด มันต้องไปแก้ไข ให้ประชาชนมีสิทธิ์ ในการประกอบอาชีพสุจริต ขณะที่ข้าราชการต้องช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มใจ ไม่ต้องรอให้ประชาชนมาร้องขอ
นายอนุทิน ได้กล่าวถึงกรณีที่นายจองชัย เที่ยงธรรม ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทย จนอาจเป็นเหตุขัดแย้งระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า พรรคภูมิใจไทย มีไมตรีกับทุกคน นายจองชัยเป็นคนเก่ง เป็นอดีต ส.ส.หลายสมัย เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง เราต้องรับเกียรตินั้นไว้ เพราะเราอยากได้ท่านมาเป็นผู้ที่ให้คำปรึกษากับพรรค โอกาสได้คนเก่งมาแล้ว เราไม่ปล่อยไปแน่นอน และคิดว่า ไม่ขัดแย้งกับพรรคชาติไทยพัฒนา เพราะสมาชิกของทั้ง 2 พรรคสนิทสนมกันดี เรื่องแค่นี้ ไม่ทำให้ความรู้สึกเก่าๆ เปลี่ยนไปแน่นอน
เมื่อถามถึงเป้าหมายของการเลือกตั้ง นายอนุทิน กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ โชคดี เพราะพรรคตั้งสโลแกนว่า ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน เพื่อแก้ปัญหาปากท้องประชาชน แล้วปรากฏว่า ปัญหาปากท้อง กลายมาเป็นปัญหาใหญ่อันดับต้น จากผลโพล เรื่องปากท้อง เป็นปัญหาหนักกว่าเรื่องการเมือง เรื่องสีเสื้อ เรื่องรัฐธรรมนูญ เท่ากับประชาชนกับพรรคคิดตรงกัน ส่วนการตั้งเป้า เราไม่เคยตั้งเป้า เพราะถ้าได้เกินเป้า เราจะประมาท ได้ต่ำกว่าเป้า พาลจะหมดกำลังใจ เราทำให้ดีที่สุด ทุ่มทั้งหมดที่มี จะได้ไม่ต้องรู้สึกเสียดายเมื่อผลออกมาแล้ว และถ้ามันประสบความล้มเหลวมากจริงๆ เราก็ต้องมาคิดว่าเส้นทางนี้ อาจจะไม่ใช่ทางของเรา
สุดท้ายที่อนาคตการเมืองไทย นายอนุทิน ตอบว่า มีเลือกตั้งตามโรดแมพ หรือภายในกลางปีหน้าต้องมีเลือกตั้ง ถ้าหากเลื่อนไปกว่านั้น ฝ่ายมีอำนาจ อาจจะรับผิดชอบไม่ไหว สิ่งที่ตนหวังเห็นคือ ทุกฝ่ายต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง อย่าตีความผลการเลือกตั้งแบบบิดเบือนเข้าข้างตนเอง หากทำแบบนั้น เกรงว่าจะเกิดความวุ่นวาย