หน้าแรก news “เห็นด้วย – เห็นต่าง” ? กระแสสังคม หลัง ปปช. ตีตกกรณี “นาฬิกาบิ๊กป้อม”

“เห็นด้วย – เห็นต่าง” ? กระแสสังคม หลัง ปปช. ตีตกกรณี “นาฬิกาบิ๊กป้อม”

0
“เห็นด้วย – เห็นต่าง” ? กระแสสังคม หลัง ปปช. ตีตกกรณี “นาฬิกาบิ๊กป้อม”
Sharing

จากกรณีที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 3 ให้พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ พ้นจากข้อลกล่าวหาเรื่องจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ

ล่าสุด พระมหาไพรวัลย์ วรรณบุตร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กมีเนื้อหา ดังนี้

“มีไม่มากก็อย่าไปน้อยใจ ถึงมีเยอะไปก็เท่านั้น มันเป็นภาระที่จะต้องรักษาหวงแหน ชีวิตก็แก่ลงเรื่อยๆ และความจำเป็นที่จะต้องได้ใช้ของบางอย่างก็น้อยลง ขอให้ลองคิดกันดู รองเท้าก็ใส่ได้ทีละคู่ เสื้อผ้าก็นุ่งได้ทีละตัว นาฬิกาก็สวมได้ทีละเรือน ถึงจะมีตั้ง 25 เรือน มันก็แค่เท่านั้น”

นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก และเยาวชน อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ (สปท.) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Thicha Nanakorn ถึงกรณีดังกล่าวสั้นๆว่า

“ประวัติศาสตร์จะบันทึกเรื่องราวของ ป.ป.ช. และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูง เหมือนชนะ แต่แพ้แล้วและแพ้ตลอดกาล”

ด้าน นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ นักกิจกรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ดังนี้

ผมขอไว้อาลัยแด่ ป.ป.ช.

ผมสัญญาว่า ผมจะไม่หยุดแค่นี้ เพราะคดีทุจริตไม่มีอายุความ พวกเขาร่างมาเองกับมือ ดังนั้นเราจะไม่หยุดเด็ดขาด

ด้าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสส.พรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ก ระบุว่า

วันนี้ ป.ป.ช. สอบเรื่องนาฬิกาหรูแล้ว สรุปว่า

– นาฬิกาเป็นของเพื่อนจริงๆ (แม้ว่าเพื่อนตายไปแล้ว)

– นาฬิกาไม่ใช่ของบิ๊กป้อมจริงๆ (เพราะเก็บอยู่ที่บ้านเพื่อน

– นาฬิกาให้เพื่อนคนอื่นยืมด้วยจริงๆ (ไม่ใช่แค่เพื่อนชื่อป้อม)

– นาฬิกาเป็นของเคลื่อนย้ายง่ายจริงๆ (ชักงง อะไรที่มันเคลื่อนย้ายยากวะ?)

– นาฬิกาไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อนจริงๆ (แม่งเรือนละเป็นสิบๆล้าน)

อ่านแล้วอย่าไปซีเรียส ป.ป.ช. สอบมาตั้งนานได้แค่นี้จริงๆ

มันเป็นกฎหมายพิเศษ คนธรรมดาอย่างพวกเรา ไม่เข้าใจจริงๆ

อีกด้านหนึ่ง นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng ระบุว่าเรื่องของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เกี่ยวกับนาฬิกาและแหวนที่ท่านเคยสวมใส่นั้น

…ก่อนที่จะวิพากษ์วิจารณ์ต้องเข้าใจข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงให้ถูกต้องเสียก่อน

***พลเอกประวิตรไม่ได้ถูกกล่าวหาทุจริตคอร์รัปชั่นหรือได้นาฬิกาหรือแหวนมาโดยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย***

…..ข้อกล่าวหาที่มีผู้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. คือกล่าวหาว่าพลเอกประวิตรจงใจปกปิดการยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ เพราะในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อเข้ารับตำแหน่งไม่ได้ระบุว่า มีนาฬิกาและแหวนที่เป็นข่าวด้วย

…..การยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ของผู้มีหน้าที่ต้องยื่นตามกฎหมายต้องยื่น 3 ครั้ง คือ

…..ครั้งแรกเมื่อเข้ารับตำแหน่ง

…..ครั้งที่สองเมื่อพ้นจากตำแหน่ง

…..ครั้งที่สามเมื่อพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี

…..ดังนั้นแม้ฟังว่า ทรัพยสินดังกล่าวเป็นของพลเอกประวิทย์ แต่ได้มาหลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้ว การที่ไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินเมื่อเข้ารับตำแหน่งก็ไม่มีความผิด

…..การที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 5 ท่านมีความเห็นว่า สำหรับนาฬิกาฟังได้ว่า เป็นของบุคคลอื่นที่เป็นเพื่อนของพลเอกประวิตรให้พลเอกประวิตรยืมใช้ จึงไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์ อีก 3 ท่านมีความเห็นว่า พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัย จึงเห็นควรให้ไต่สวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก

…..ส่วนแหวนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 8 ท่านมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า แหวน 3 วง เป็นมรดกของบิดาที่มารดามอบให้หลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้ว การที่ยังไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินจึงไม่มีความผิดเช่นเดียวกัน


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่