รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการโครงการสำรวจความนิยมของประชาชนต่อบุคคลและพรรคการเมืองที่จะมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลหลังวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 วิทยาลัยฯ ได้รวบรวมตัวอย่างจำนวน 8,000 ตัวอย่างตามโครงสร้างประชากรของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในวันที่ 24 ธันวาคม 2561 ตามภาคอาชีพ เพศ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ ฯลฯ ใน 350 เขตเลือกตั้งใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ ด้วยระดับความน่าเชื่อมั่นทางสถิติ 90 % ผลการศึกษาสรุปได้ดังต่อไปนี้
ผลการสำรวจคะแนนนิยมที่ประชาชนต้องการบุคคลมาเป็นนายกรัฐมนตรีภายหลังการเลือกตั้งตามลำดับ คือ (1) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 26.04 % (2) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ 25.28 % (3) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 22.68 % (4) นายอนุทิน ชาญวีรกูล 9.23 % (5) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 9.9 % และ 6) อื่น ๆ รวมกัน 6.86 %
เปรียบเทียบกับผลการสำรวจครั้งที่แล้วพบว่าคะแนนนิยมของพล.อ.ประยุทธ์อยู่ในสภาวะมีเสถียรภาพพอสมควร เพราะสามารถสร้างคะแนนนิยมจากที่เคยได้น้อยกว่าคุณหญิงสุดารัตน์ขึ้นมานำได้สำเร็จ แต่คุณหญิงสุดารัตน์ นายอภิสิทธิ์ นายอนุทิน และนายธนาธรมีคะแนนนิยมสูงขึ้น ผู้ที่มีคะแนนนิยมสูงขึ้นรวดเร็วที่สุด คือ นายอนุทินที่เพิ่มขึ้น 6.97 % เมื่อเทียบกับการสำรวจครั้งก่อน คะแนนนิยมของคุณหญิงสุดารัตน์กับนายอภิสิทธิ์เพิ่มขึ้นในระดับใกล้เคียงกันคือ ราว 7 % ส่วนนายธนาธรคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นช้าสุดคือเพียง 0.22 % เท่านั้น
ผลการสำรวจครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า (1) พรรคเพื่อไทยจะไม่สามารถผูกขาดชัยชนะแบบเด็ดขาดเหมือนในอดีตอีกต่อไป เนื่องจากพรรคถูกพรรคพลังประชารัฐเข้ามาแบ่งคะแนนไปค่อนข้างมากในแง่ของตัวผู้นำพรรค และ (2) คะแนนนิยมในตัวนายอนุทิน ชาญวีรกูล เพิ่มขึ้นรวดเร็วในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา (3) คะแนนนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์กับคุณหญิงสุดารัตน์อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน