นายสนอง เทพอักษรณรงค์ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทย เขต 1 บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ออกพบปะประชาชนอย่างใกล้ชิด และคอยดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนเสมอมา ไม่ว่าจะได้เป็นผู้แทนราษฎรหรือไม่ก็ตาม ส่งผลให้การลงพื้นที่ต่างๆ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น นอกจากนี้ยังพบว่า กระแสของพรรคภูมิใจไทย เป็นไปในทิศทางที่ดี และได้ประสานความร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และทำงานอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ส่วนนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ถือได้ว่าโดนใจชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเกษตรกรชาวนา ซึ่งจากการได้เข้าไปให้ข้อมูลนโยบาย Profit Sharing หรือ เศรษฐกิจแบ่งปัน ก็เป็นที่พอใจของชาวนา ต่างเชื่อว่าเป็นการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและเป็นรูปธรรม และเขาพร้อมที่จะร่วมลงชื่อเสนอกฎหมายในเรื่องต่างๆ เพื่อให้พรรคฯไปดำเนินการสานต่อ รวมถึงการพักหนี้ กยศ. เรียนฟรีตลอดชีวิต และการเพิ่มศักยภาพให้กับ อสม. นอกจากนี้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยังได้สะท้อนด้วยว่า อยากให้พรรคนำเสนอค่าตอบแทนเพิ่มมากขึ้นจากเดิม เพื่อให้เหมาะสมกับเศรษฐกิจในปั จจุบัน และไม่มีการปรับมากว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งพรรคก็น้อมรับไว้เพื่อนำเข้าไปผลักดันต่อไป
นายสนอง เทพอักษรณรงค์
ขณะที่แพทย์หญิงวาสินีพร พลเยี่ยม ว่าที่ผู้สมัครฯเขต 3 จ.ร้อยเอ็ด ประกอบด้วย 3 อำเภอ คือ อ.โพนทอง อ.เมยวดี และ อ.หนองพอก (ยกเว้น ต.ท่าสีดา และต.หนองขุ่นใหญ่) เปิดเผยถึงการลงพื้นที่พร้อมทั้งชูนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน โดยการเสนอระบบแบ่งปันกำไรอย่างเป็นธรรมให้กับเกษตรกร พร้อมทั้งชูนโยบาย อสม. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และค่าตอบแทนให้อสม. ทั้งนี้ ด้วยความที่ตนเองเป็นหมอจึงทำให้ทราบถึงสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ทั้งเรื่องสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิต ของแต่ละครัวเรือนเป็นอย่างดี นอกจากนี้เรื่องนโยบายพักหนี้ กยศ. เป็นที่ถูกใจของชาวบ้านที่มีรายได้น้อย ซึ่งชาวบ้านบางรายไม่สามารถชำระเงินได้ตามกำหนด ลูกหลานที่เรียนจบแล้วแต่ยังไม่มีอาชีพ ทำให้ไม่มีรายได้เพียงพอที่จะผ่อนชำระเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ในการลงพื้นที่แต่ละอำเภอ เรื่องการจัดการระบบน้ำยังคงเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีแหล่งผลิตน้ำก็ตามแต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้ง
แพทย์หญิงวาสินีพร พลเยี่ยม
ด้านนายจรูญ แสนพิมพ์ ว่าที่ผู้สมัครฯ พรรคภูมิใจไทย เขต 2 บึงกาฬ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่หาเสียงพบว่าประชาชนให้การต้อนรับพรรคภูมิใจไทยเป็นอย่างดี เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีโอกาสทำงานด้านการเมืองมาหลากหลายด้าน เป็น ส.จ. 2 สมัย เป็นนายกเทศมนตรี 3 สมัย และเป็นรองนายก อบจ.บึงกาฬ อีกด้วย โดยประชาชนประชาชนส่วนใหญ่สนใจนโยบายด้านการเกษตร อาทิ Profit Sharing ผลประโยชน์แบ่งปัน เป็นการคืนกำไรให้ชาวนาอย่างเป็นธรรม
นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องการจะทำหากได้รับการไว้วางใจจากประชาชน คือการพลิกจังหวัดบึงกาฬ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านการกีฬา เพื่อเป็นสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชาวบึงกาฬ เนื่องจากที่ผ่านมาตั้งแต่แยกจังหวัดออกมาจากหนองคาย แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่อยู่ในจังหวัดยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างจริงจัง จึงมีความต้องการทำงานในเรื่องนี้ทันทีอย่างเป็นรูปธรรม โดยเชื่อมั่นว่าภายใต้ชื่อพรรคภูมิใจไทย จะสามารถผลักดันโครงการต่างๆ ได้สำเร็จอย่างแน่นอน
นายจรูญ แสนพิมพ์