นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความพร้อมของพรรคต่อการเลือกตั้งตามโรดแมปวันที่ 24 ก.พ.62 ว่า เราพร้อมมานานแล้ว เพราะคิดว่าการเลือกตั้งควรจะเกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเราไม่ได้เป็นผู้กำหนดการเลือกตั้ง ดังนั้นสิ่งที่เราจะทำได้คือ เรื่องความพร้อม ซึ่งพรรคภูมิใจไทยได้เคาะผู้สมัคร ส.ส.ไว้หมดแล้ว รอเพียงการประกาศพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้งส.ส. เท่านั้น อาจเหลือเพียงการปรับนิดหน่อย ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่นัยยะสำคัญ เนื่องจากผู้ที่มีคุณสมบัติตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญฉบับปัจุบัน มีพื้นที่ชัดเจน และผ่านเกณฑ์การคัดเลือกของพรรคแล้ว ค่อนข้างที่จะได้รับการเสนอ รอคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครส.ส.ทำการเคาะครั้งสุดท้ายก่อนเสนอให้ตนในฐานะหัวหน้าพรรคลงนามต่อไป
“ทั้งนี้ในเบื้องต้นทางพรรคจะส่งผู้สมัครส.ส. ครบ 350 เขต และส่งคนที่เหมาะสมที่สุด จะไม่ส่งคนที่ไปเก็บกวาดคะแนน หยิบเล็กหยิบน้อยมาแล้วให้มีจำนวนมา เพื่อที่จะมาอ้างว่าเอามาคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ เราจะไม่หลอกประชาชน ส่วนที่มีคนพยายามบอกว่า พรรคภูมิใจไทยจะไปจับมือกับฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ แต่ผมคิดว่าเราอาจจะเป็นแกนนำได้เพราะเราส่ง 350 เขต มันพิสูจน์แล้วว่าเรามีความพร้อมพอสมควร”นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า สถานการณ์วันนี้ประเมินว่าพรรคจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่ประเมิน เพราะประเมินไปก็เท่ากับเราไปตีกรอบและไม่เคารพเสียงของประชาชน ได้เท่าไหร่คือคำตัดสินใจของท่านเหล่านั้น พรรคภูมิใจไทย น้อมรับทุกๆคะแนน จะแปรการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนที่ผ่านออกมาในรูปแบบของคะแนนที่มอบความไว้วางใจให้กับพรรคภูมิใจไทย และรับรองว่าตนแปรถูกและจะเดินไปในทิศทางที่ท่านเหล่านั้นต้องการ
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองปี 2562 ว่า คิดว่าการเมืองในปีนี้จะมีความชัดเจนขึ้นทำให้ประเทศไทยเป็นที่น่าเชื่อถือเป็นที่มั่นใจของประชาคมโลก หากมีการเลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้นภายในระยะเวลาตามโรดแมป ที่ผ่านมาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และผู้ที่เกี่ยวข้องพยายามทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นตามตารางเวลาที่ได้วางแผนเอาไว้
“ดังนั้นต้องขอขอบคุณท่านเหล่านั้น การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องถือว่าในทางการแข่งขันไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบใคร ไม่ได้เลือกตั้งท่ามกลางความขัดแย้งขั้วใดขั้วหนึ่ง เป็นการเลือกครั้งที่ทุกคนอาสาสมัครลงมาต่อสู้ไม่มีพรรคไหนถอนตัวจากการเลือกตั้ง ไม่มีพรรคไหนที่บอกว่าไม่พอใจในบทบัญญัติต่างๆ ตามกฎหมายและถอนตัว ก็ถือว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ทุกคนอาสาเข้ามาแข่งขัน ดังนั้นต้องยอมรับผลที่จะออกมาบนความตัดสินใจของประชาชน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะถ้าเราไม่ยอมรับผลการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ก็เท่ากับว่าเราไม่เล่นตามกติกา และเราไม่เชื่อประชาชน ซึ่งเป็นผู้ตัดสินอนาคตทุกเรื่องของเรา ตรงนี้มันทำไม่ได้ เราต้องยอมรับว่าการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนนั้นคือเสียงสวรรค์ เสียงสูงสุดเป็นทิศทางที่พวกเราจะเดินไปทางไหน” นายอนุทิน กล่าว
“ในเมื่อทุกคนยอมรับกติกาเหล่านี้ได้ไม่มีใครได้เปรียบใคร ไม่มีความขัดแย้งแล้วลงมาเลือกตั้งแข่งขันกัน แบบแฟร์ๆ ผมก็เชื่อว่าบ้านเมืองหลังการเลือกตั้งก็น่าเข้าสู่ความสงบสุข และพรรคภูมิใจไทยยืนยันได้เลยว่าด้วยอำนาจของหัวหน้าพรรคจะไม่เป็นอุปสรรค และทำให้บ้านเมืองเจริญไปข้างหน้า แก้ปัญหาปากท้องให้ชาวบ้านได้สำเร็จ และไม่เป็นพรรคที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ในทางกลับกันก็พร้อมทำหน้าที่เป็นทางออกให้บ้านเมืองไปสู่ความสงบเรียบร้อยมากที่สุด”หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว