(7 ม.ค.62) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “อนุทิน ชาญวีรกูล” โดยย้ำถึงจุดยืนพรรคภูมิใจไทยรวมถึงแนวแนวทางการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนว่า สาเหตุที่เพิ่งจะมาคิดได้ว่า จะทำอะไร จะแก้ปัญหาให้ประชาชน มากมายหลายเรื่องในเวลานี้ซึ่งเป็น เวลาที่จะมีเลือกตั้ง เรื่องแรกต้องพูดกันแบบให้ความเป็นธรรมกับนักการเมืองทุกคน พรรคการเมืองทุกพรรค ก็คือ 4 ปีกว่า ที่ผ่านมา คสช. ห้ามนักการเมืองพูด ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมประชุมกันก็ไม่ได้ มีเจ้าหน้าที่สอดส่องตลอดเวลา ใครฝ่าฝืนคำสั่ง มีความผิดคดีอาญา มีโทษติดคุก ติดตาราง อย่างน้อยๆ ก็ต้องไปปรับทัศนคติ ตนเองก็โดนเชิญไปปรับทัศนคติ มาแล้ว 3 วัน 2 คืน ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ฝ่าฝืนคำสั่งห้าม นักการเมือง พรรคการเมือง เพิ่งได้รับอนุญาตให้ทำกิจกรรม ให้ประชุมกันได้ ไม่กี่วันมานี้เอง จึงเป็นเหตุที่ว่า ทำไมนักการเมือง พรรคการเมือง จึงนำเสนอแนวคิดแก้ปัญหาต่างๆ ให้พี่น้องประชาชน ให้อยู่ดีกินดีเสนอแนวทางการพัฒนาประเทศ ให้เจริญก้าวหน้า กันมากมาย จนเรียกได้ว่า พรั่งพรูอยู่ในขณะนี้
นายอนุทิน ระบุอีกว่า ก็เพราะ 4 ปีกว่าที่ผ่านมา ได้แต่คิด ได้แต่ดู ไม่เคยได้พูด วิพากษ์วิจารณ์อะไรมาก ไม่ได้ ทั้งๆ ที่อยากพูด เพราะเห็นปัญหามากมาย โดยเฉพาะความยากจนของประชาชน ที่ขยายตัวเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว ตนเองก็เคยอดไม่ได้ ออกมาตั้งคำถามด้วยความสุภาพว่า
“ถ้าเศรษฐกิจดี ตามที่รัฐบาลบอกทำไมคนส่วนใหญ่ยังยากจน แสดงว่า เศรษฐกิจที่ว่าดี ไม่กระจายถึงคนส่วนใหญ่ แสดงว่ามีความไม่ปกติ ไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจที่บอกว่าดี ทำไมรวยกระจุก จนกระจาย”
นายอนุทิน เชื่อว่า นักการเมืองทุกคน ทุกพรรคการเมือง แม้จะหยุดทำกิจกรรม แต่ไม่มีใครหยุดคิดหาแนวทางแก้ปัญหาให้ประชา ชน ให้ประเทศชาติ มั่นใจว่า นักการเมืองไทย รักชาติ บ้านเมือง ไม่น้อยกว่าคนไทยทุกๆ คน ทุกสาขาอาชีพ ตนกับสมาชิกพรรคภูมิใจไทย แม้จะไม่ได้มาทำกิจกรรม มาประชุมด้วยกัน แต่เราไม่ได้หยุดคิด เราไม่ได้หยุดทำงาน เราไม่ได้หยุดพบปะ ดูแลพี่น้องประชา ชน เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ที่ได้รับอนุญาตให้ทำกิจกรรมได้ ให้นำเสนอแนวคิด แนวทางแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ให้ประเทศชาติ ได้ พวกเราก็ใช้สิทธิอย่างเต็มที่ เพื่อบอกให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ และ ประชาชนรู้ว่า พวกเรา พรรคภูมิใจไทย คิดอ่านอย่างไร และ จะทำอะไรบ้าง เพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และพัฒนาประเทศชาติ
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า สำหรับพรรคภูมิใจไทย ปัญหาปากท้องประชาชน หรือ ปัญหารายได้ของประชาชน คือ เรื่องที่สำคัญอันดับแรก ที่พวกเราให้ความสนใจ และคิดหาทางสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ประชาชน มากกว่าทุกๆ เรื่อง หลายแนวคิดที่เรานำเสนอ มีการทำวิจัยความต้องการของประชาชน มีการศึกษา ทั้ง กฎหมาย งบประมาณ ความคุ้มค่า ก่อนที่จะมาพูด มานำเสนอให้ประชาชนพิจารณา ทุกเรื่องที่เราเสนอแล้ว และจะเสนอต่อไป ขอยืนยันว่าทำได้จริง และเคยทำมาแล้ว ถ้าได้รับโอกาสจากประชาชน ก็จะทำได้ทันที
“บางคนบอกว่า ไม่อยากฟังเรื่องนโยบาย อยากรู้ว่าผม กับพรรคภูมิใจไทย อยู่ข้างไหน อยู่ขั้วไหน อย่าตอบแบบกั๊ก ผมพูดหลายครั้ง หลายเวที ผมอยู่ข้างประชาชน ประชาชนบอกอย่างไร ตัดสินอย่างไร ผมทำตามนั้น ทุกวันนี้ ประชาชน บอกว่าเดือดร้อนเรื่องปากท้อง ผมก็ทำเรื่องนี้ ประชาชน ไม่อยากให้มีความขัดแย้งของคนในชาติ เกิดขึ้นอีก ผมก็ไม่สร้างความขัดแย้ง ใครจะด่า ใครจะว่า ผมนิ่งเงียบ ผมรับฟังด้วยความอดทน ไม่ตอบโต้ เพราะไม่อยากทำให้เกิดความขัดแย้ง เรื่องจับขั้วกับใคร อยู่ข้างใคร พรรคไหน เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ ขอให้ประชาชนบอกมา ผมจะทำตามนั้น ผลการเลือกตั้ง จะบอกได้ดีที่สุด ณ ขณะนี้ ผมบอกได้เพียงว่า ผมไม่เอาความขัดแย้ง ถ้าท่านอยากได้ความขัดแย้งไม่รู้จบสิ้น แล้วก็วนมาจบด้วยบทเดิมๆ แบบที่ผ่านมา ก็เลือกพรรคการเมืองที่ชูความขัดแย้ง เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง แต่ถ้าท่านไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งของคนในชาติ พอแล้วกับความขัดแย้ง ความแตกแยกของคนในชาติ ขอให้เลือกพรรคภูมิใจไทย ผมในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะยุติความขัดแย้งของคนในชาติ ด้วยความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ชัดเจนแล้วนะครับ ว่าผมไม่ได้กั๊ก ผมมีจุดยืนของผม ผมเลือกที่จะไม่เอาความขัดแย้ง และผมเลือกที่จะยืนอยู่กับประชาชน ที่ต้องการยุติความขัดแย้ง” นายอนุทินกล่าว