นายศิวะ ศรีชาย นายกสมาคมชาวสวนยาง จ.พัทลุง กล่าวถึงสถานการณ์ ราคายางพาราว่า ปัจจุบันยังมีราคาตกต่ำ โดยน้ำยางดิบ มีระดับขึ้นลงระหว่าง 30-70 บาท /กก. หรือ บางช่วงต่ำมาก คือ 3 ก.ก. 100 บาท จากกลไกตลาดที่ผูกขาดโดยกลุ่มนายทุนใหญ่ 5 ราย หรือ ที่ ชาวบ้านเรียกว่า “กลุ่ม5เสือ” ซึ่งได้โควต้าส่งออกยางพารา รวมหัวกำหนดราคาล่วงหน้า จากตลาดต่างประเทศ แล้วมากดราคาเอาเปรียบเกษตรกรโดยไม่เป็นธรรม เรื่องอย่างนี้ เกิดขึ้นมานานแล้ว เป็นปัญหาเรื้อรัง รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างจริงจัง การยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท.ต้องใช้อำนาจควบคุมกลไกตลาด ไม่ปล่อยให้ตกอยู่ภายใต้การชักใยของพ่อค้าคนกลาง “ราคาเหมาะสมที่ให้ชาวสวนยางอยู่ได้ต้องไม่ต่ำกว่า 40-50 บาท / กก.” นายศิวะ กล่าว
นายเชวง ช่วยบำรุง ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่าที่ผ่านมา รัฐบาลใช้แนวทางพยุงราคาช่วยเหลือชาวสวนยาง แต่ไม่ยั่งยืน เป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด ดังนั้น การขยายตลาดใหม่ ด้วยการสนับสนุนตั้งโรงงานอุตสาหกรรม ใช้ยางพาราเป็นวัตถุดิบ ผลิตสินค้าอื่นๆ ป้อนตลาด เช่น ยางรถยนต์ ที่นอน หมอนยาง ฯลฯ จะเป็นแนวทางยั่งยืน ช่วยยกระดับราคายางให้สูงขึ้นได้ โดยราคาขั้นต่ำ
“ถึงเวลาแล้วที่ชาวใต้ต้องเปลี่ยนแปลง ผมได้นำเสนอแนวทางยกระดับราคายางให้สูง เช่นเดียวกับ อ้อยและน้ำตาล บอกพี่น้องชาวใต้พรรคได้ยกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเพื่อแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ เช่นเดียว กับ พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาล ผมพูดมาหลายเวที ทุกคนนิ่งฟังด้วยความสนใจและมีความหวัง”
นายเชวง กล่าวย้ำว่า การช่วยเหลือเกษตรชาวสวนยางพารา ซึ่งถือเป็นอาชีพหลักของ ประชาชนพื้นที่ภาคใต้ เป็นนโยบายช่วยเหลือ แก้ปัญหา ปากท้องประชาชนให้อยู่ดีกินดี ของพรรคภูมิใจไทย เช่นเดียว กับ แนวทาง การยกระดับรายได้ อาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสม.ทั่วประเทศ 1 ล้านราย โครงการเรียนฟรี ผ่านการศึกษาออนไลน์ทั่วประเทศ อยู่ที่ไหนก็สามารถเรียนจบปริญญาตรีได้ เป็นนโยบายขั้นพื้นฐาน ที่ ตนนำเป็นประเด็น ปราศรัยหาเสียง สำหรับการแข่งขันเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สุราษฎร์ธานี โดยที่ผ่านมา ทุกเวทีหาเสียง ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี
