เว็บไซต์ ไค่ซินโกลบอล รายงานจากแหล่งข่าวแวดวงธุรกิจจีนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของไทย ดำรงตำแหน่ง ประธาน และผู้แทนโดยชอบธรรมของ บริษัท ซัวเถา อินเตอร์เนชั่นแนล คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัลส์ จำกัด (Shantou International Container Terminal) หรือ เอสไอซีที บริษัทบริหารท่าเรือในเมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของประเทศจีน
(BBC)เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานว่า บันทึกการยื่นเอกสารของบริษัทในฮ่องกงระบุว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ อายุ 51 ปี ได้ใช้หนังสือเดินทางกัมพูชาในการจดทะเบียนเป็นกรรมการเพียงผู้เดียวของ พี.ที. คอร์ปอเรชั่น (P.T. Corporation Company) บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในฮ่องกงเมื่อ 24 ส.ค. 2560 หรือเกือบหนึ่งปี
ข้อมูลตามเอกสารนี้ขัดแย้งกับข้ออ้างของรัฐบาลกัมพูชาที่บอกว่า ไม่เคยออกเอกสารเดินทางใด ๆ ให้เธอ ขณะที่เธอหนีออกจากไทยได้อย่างน่าฉงน ทั้งที่ช่วงนั้นเธอถูกเฝ้าจับตาจากรัฐบาลทหารตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) อุปนายก และ เลขาธิการสมาคมวัฒนธรรม และ เศรษฐกิจไทย-จีน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Paisal Puechmongkol แสดงความเห็นว่า การที่บุคคลต่างชาติ จะเป็นประธานบริษัทนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ โดยลําพังบริษัท! นัยยะสำคัญของเรื่องนี้จึงน่าคิดมากครับ ว่าอาจเป็นเรื่องส่งสัญญาณอะไรหรือไม่
สำหรับบริษัทเอสไอซีทีนั้น ก่อตั้งขึ้นในปี 2537 ด้วยทุนจดทะเบียนสูงถึง 88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,800 ล้านบาท เดิมทีเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท โฮลดิงส์ (เอชพีเอช) ในฮ่องกง กับบริษัท ซัวเถา เมอร์ชานต์ส บูโร พอร์ท จำกัด และต่อมาเป็นการร่วมหุ้นของบริษัท ไชน่า เมอร์ชานต์ส พอร์ท เดเวลอปเมนต์ จำกัด ในเมืองเสิ่นเจิ้น กับซัวเถา เอสเอเอสเอซี หรือคณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารทรัพย์สินเมืองซัวเถา
ท่าเรือซัวเถาเป็น 1 ใน 25 ท่าเรือหลักของจีน และเป็น 1 ใน 5 ศูนย์กลางท่าเรือสำคัญของมณฑลกวางตุ้ง ประกอบด้วยท่าเรือ 7 แห่งและมีโกดังขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับปริมาณสินค้าได้มากถึง 50 ล้านตัน และ 1.3 ล้านทีอียู (หน่วยนับสินค้าบรรจุตู้คอนเทนเนอร์ความยาว 20 ฟุต เท่ากับ 1 ทีอียู) คิดเป็นร้อยละ 55 และ 99 ของศักยภาพท่าเรือ 3 แห่งในพื้นที่ภาคตะวันออกของมณฑลกวางตุ้ง
ที่สำคัญคือเป็นหนึ่งในท่าเรือไม่กี่แห่งนอกศูนย์กลางเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำจูเจียง สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี และทะเลปั๋วไห่ ที่มีปริมาณการรองรับสินค้าเกิน 1 ล้านทีอียูด้วย
ทั้งนี้ ธุรกิจในต่างแดนของ “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้มีแค่ในเมืองจีน มีรายงานจากสำนักข่าวอิศราว่า ช่วงปี 2551 “ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ”เคยปรากฏชื่อเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในประเทศอังกฤษอย่างน้อย 2 แห่งด้วย ในช่วงปี 2551 คือ บริษัท MANCHESTER CITY LIMITED ตั้งอยู่ที่ City Football Hq, 400 Ashton New Road, Manchester, M11 4TQ โดยยิ่งลักษณ์ปรากฏชื่อเข้าไปดำเนินกิจการเป็นผู้บริหารทั้งในตำแหน่งผู้อำนวยการและในตำแหน่งเลขานุการองค์กรตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2551-24 กันยายน 2551 (7 เดือน)
และบริษัท MANCHESTER CITY FOOTBALL CLUB LIMITED ซึ่งเป็น 2 บริษัท “ทักษิณ” เคยปรากฏชื่อเป็นผู้บริหารอยู่ด้วย
ต่อมา มีรายงานว่า “ยิ่งลักษณ์” แจ้งออกจากตำ แหน่งผู้บริหารใน MANCHESTER CITY LIMITED นั้น เกิดขึ้นหลังจากที่ “ทักษิณ” แจ้งลาออกจากการบริหารบริษัท MANCHESTER CITY LIMITED เพียงแค่ 1 วันเท่านั้น
และช่วงเดือนกันยายน 2561 เฟซบุ๊ก “กรุงเทพ กรุงเทพ” ระบุความเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ว่า 2 พี่น้อง “ชินวัตร” มีพันธมิตรที่เป็นทั้งนักธุรกิจและนักการเมืองชาวต่างชาติอีกหลายคน ส่งผลให้เชื่อมโยงถึงการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ไม่ยากนัก
ขอบคุณ :
ข่าวสด
BBC
ฐานเศรษฐกิจ