นายมะฮัสตี มะแซสะอิ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 1 พรรคภูมิใจไทย กล่าวภายหลังเกิดเหตุคนร้ายกว่า 10 คน บุกเข้าโจมตีภายในวัดรัตนานุภาพ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส จนทำให้พระภิกษุมรณภาพและได้รับบาดเจ็บหลายรูปว่า ขอประณามผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ทั้งนี้ เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เคยห่างหายไปช่วงระยะหนึ่ง แต่ว่าตอนนี้เริ่มกลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้ง ในช่วงที่ทุกพรรรคการเมืองกำลังหาเสียงและวันเลือกตั้งยังไม่มีความชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ตนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน รวมถึงเรื่องภาพลักษณ์ของ จ.นราธิวาส เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ย่อมส่งผลให้ไม่มีใครกล้าเข้ามาในพื้นที่ ตนไม่อยากให้บ้านเรากลายเป็นเมืองปิด จึงเชื่อว่าทุกคนอยากเห็นนราธิวาสมีความสงบเรียบร้อย โดยในส่วนของพรรคภูมิใจไทยเอง เรามุ่งหวังที่จะใช้นโยบายเปลี่ยนเสียงระเบิดเป็นเครื่องจักร SOUTH ECONOMIC CORRIDOR หรือ SEC ด้วยการต่อยอดจาก พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวัน พ.ศ. 2561 เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต และแก้ปัญหาตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ให้เกิดความมั่นคง ยั่งยืน ซึ่งนั่นก็คือการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจและปากท้อง โดยเชื่อว่าสิ่งดีๆจะตามมาหลังจากนั้น
“ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ทุกกลุ่มที่พยายามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ให้เกิดขึ้นอีก ผมมั่นใจว่าคนที่ตั้งใจทำให้บ้านเมืองสงบมีเยอะ จึงขอให้ช่วยกันแก้ปัญหาต่อไป” นายมะฮัสตีกล่าว
นายมะฮัสตี มะแซสะอิ
ขณะที่นายอนันต์ แสงวัณณ์ สมาชิกพรรคภูมิใจไทย จ.ยะลา ในฐานะทนายความและผู้ทำงานด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ความจริงมีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่การก่อเหตุเช่นนี้ในวัด ไม่เคยเห็นมาก่อน นับเป็นความรุนแรงในรอบหลายปี ซึ่งแน่นอนว่าทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิมไม่เห็นด้วยกับการทำร้ายผู้นำทางศาสนา จึงถือเป็นเรื่องที่ต้องประณาม
ทั้งนี้ เป็นภารกิจของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะติดตามตัวผู้ก่อเหตุมารับโทษโดยพลัน เนื่องจากที่ผ่านมามักไม่สามารถจับกุมตัวได้ ส่งผลให้ประชาชนรู้สึกไม่สบายใจ
นายอนันต์ แสงวัณณ์