โดนสวนเจ็บๆเข้าไป ก็จุกเป็นเหมือนกันสำหรับนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ก่อนหน้านี้ออกมาเปิดเผยข้อมูลแบบ “ตีขลุม” ว่า มีบางพรรคการเมืองเก็บบัตรประชาชนแลกเงิน 500 บาท
แม้จะไม่เอ่ยชื่อพรรคการเมืองไหน แต่รับรองได้ว่าสะเทือนทุกพรรค เป็นความเก๋าเกมของฝ่ายประชาธิปัตย์ ที่ช่ำชองกลยุทธ์เก่าเก็บ ไม่สร้างสรรค์ แต่ได้ผล จับต้องสัมผัสได้
ฝ่ายที่ได้รับผลกระทบ หนีไม่พ้นพรรคภูมิใจไทย ที่วันนี้ขยับขึ้นมาเป็นคู่แข่งอย่างเต็มตัว โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ที่มี ดร.นาที รัชกิจประการ คอยดูแลยุทธศาสตร์ ทำคะแนน สร้างกระแสแบบดีวันดีคืน
เหตุนี้ พรรคภูมิใจไทย จึงมิอาจถูกกล่าวหาได้อีกต่อไป เพราะปล่อยไว้อาจจะถึงขั้นเสียขบวน จึงไม่น่าแปลกใจเมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เร่งเร้าให้รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ออกมาพูดให้ชัดว่า “ใคร” เป็นคนเก็บบัตรประชาชน เรียกได้ว่าเป็นการส่งเสียงแทนพรรคอื่น ที่เจ็บมาจากเกมของพรรคประชาธิปัตย์
ในอารมณ์ดุดันของพรรคภูมิใจไทย
ต่อมาผู้ใช้ชื่อเฟสบุ๊ค “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” ได้มีการไปโพสต์ใน เพจ “คนลุง ดอทคอม” ว่า
“ผมไม่ได้ระบุนะจ๊ะว่าจังหวัดไหน ผมเพียงแค่ยืนยันว่ามีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นจริง อาจจะเป็นจังหวัดในประเทศสารขันธ์ก็ได้”
แบบนี้เรียกว่ากล่าวหาเพื่อนด้วยความเท็จหรือไม่ ???
อย่างไรก็ตาม ในประเด็นดังกล่าว นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า คงจะต้องเรียกร้องให้นายนิพิฏฐ์ รับผิดชอบต่อคำพูดของตนเอง เพราะเรื่องนี้มีผลกระทบต่อพรรคการเมืองอื่น และต้องให้เกียรติพรรคการเมืองอื่นด้วย การพูดไม่ตรงกันแบบนี้ทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวของนายนิพิฏฐ์ เองด้วย
“วันหนึ่งบอกเป็นเขตของตนเอง อีกวันบอกว่าเป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศสารขันธ์ ประชาชนก็จะสับสนว่าคุณไปลงเลือกตั้งที่ไหนกันแน่
พูดจาแบบนี้ไม่อยู่ในร่องในรอยหรือเปล่า โปรดตั้งสติเสียใหม่ เรื่องนี้ผมคิดว่ายุติได้แล้ว ตอบโต้กันไปมา ประชาชนเบื่อหน่าย หากคิดว่าใครผิด ก็ให้ส่งเรื่องร้องเรียนให้ กกต. จะดีกว่า อย่าทำเพื่อออกสื่อสร้างกระแสแล้วเกิดความเสียหายทางการเมืองเช่นนี้เลย”
ทั้งนี้ ฝ่ายพรรคภูมิใจไทย เคยผ่านประสบการณ์ทำนองเดียวกันมาแล้ว โดยนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ จากพรรคพลังประชานัฐ เคยตีขลุมกล่าวหาพรรคภูมิใจไทย ว่าเล่นไม่ซื่อเก็บบัตรประชาชนแลกเงิน ก่อนที่เรื่องจะโอละพ่อ เพราะชาวบ้านออกมายืนยันว่าเป็นเพียงการเก็บบัตรประชาชน เพื่อไปถ่ายเอกสารยืนยันความนิยมให้กับนักการเมืองท่านหนึ่ง ไว้ใช้อ้างอิงในการทำไพรมารีโหวตเท่านั้น
จนสุดท้ายนายสุภรณ์ ต้องไปขอขมานายอนุทินด้วยตัวเอง ซึ่งระหว่างนั้น พรรคภูมิใจไทย ได้ฟ้องกลับนายสุภรณ์ไปแล้วฐานใส่ร้ายป้ายสี
ในกรณีความขัดแย้งระหว่างนายนิพิฏฐ์ กับพรรคภูมิใจไทย เป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ และต้องการให้นายนิพิฏฐ์นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย พิสูจน์ด้วยหลักฐาน แทนที่การสาดโคลน โยนขี้ให้เพื่อน
และเมื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ปรากฎชื่อผู้ถูกกล่าวหากันชัดแล้ว หากมีชื่อของพรรคภูมิใจไทย ทีมกฎหมายจะได้ฟ้องกลับอย่าสะดวกโยธิน
สู้กันในชั้นศาล ดีกว่าสาดโคลนกันไปมา
Ringsideการเมือง