ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำวิทยาลัยรัฐกิจ ม.รังสิต กล่าวถึงบทเรียนของพรรคการเมืองไทยว่า ต้องเข้าในสัจจธรรมของการเมืองไทย ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งบางช่วงอาจถูกลดขนาด บางครั้งอาจไม่ชนะเลือกตั้ง
ขณะที่พรรคที่น่าจับตาอย่างพรรคภูมิใจไทย ต้องบอกว่าอยู่ในภาวะขาขึ้น แต่ในอนาคต สมมุติว่ามีโอกาสได้เป็นรัฐบาล แต่วันหนึ่งข้างหน้าต้องยอมรับสัจจธรรมทางการเมืองตรงนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้ามองภาพการเมือง ณ ขณะนี้ พบว่าสาเหตุที่ภูมิใจไทยสามารถเติบโตขึ้นมาควบคู่กับประชาธิปัตย์ คือ
1.การสร้างนโยบายที่ท้าทาย เช่น กัญชาเสรี เพื่อเปลี่ยนเป็นพืชเศรษฐกิจและใช้ในทางการแพทย์ นี่จึงเป็นความกล้าหาญของพรรคการเมืองว่าใครจะชัดเจนกว่ากัน เช่นเดียวกับบุรีรัมย์โมเดล มันมากกว่าเรื่องถนนหนทาง แต่มันกว้างไปถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ รวมไปถึงเรื่องการกระจายอำนาจไปท้องถิ่นด้วย
2.เรื่องตัวบุคคล พบว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ชูคนรุ่นใหม่ขึ้นในระยะหลัง แต่กลับพบจุดอ่อนเช่น เรื่องภูมิหลัง แม้คนรุ่นใหม่เหล่านั้นจะมีโปรไฟล์ชีวิตดีมาก แต่หลายคนยังขาดประสบการณ์และความเชื่อมโยงทางการเมืองต่างจากบุคลากรของพรรคภูมิใจไทยที่อาจจะมีมากกว่าหรือไม่
ผศ.วันวิชิต ยังกล่าวถึงบทบาทของผู้นำของพรรคเพื่อไทย ระหว่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่า 2 ท่านนี้ไม่ว่าใครก็ไม่ต่างกันในแง่ของการต่อรองและการสานสัมพันธ์กับพรรคการเมืองอื่นๆ เพราะคนที่ทำหน้าที่นี้อาจจะเป็นเลขาธิการพรรคหรือคนหลังบ้านแทน