ดร.สติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการประจำสถาบันพระปกเกล้า กล่าวหลังจากพรรคเพื่อไทย ประกาศส่งผู้สมัคร 250 เขต ว่า พรรคเพื่อไทย มุ่งเป้าไปที่การเก็บคะแนนจาก ส.ส.เขตเป็นหลัก นอกจากนั้น การส่ง ส.ส.ลง 250 เขต ขณะที่ไทยรักษาชาติ จะส่ง 150 เขต แสดงว่าต้องทับซ้อนกัน 50 เขต เพื่อแสดงให้เห็นว่า 2 พรรคนี้ แยกกันเด็ดขาด ไม่ได้ฮั้วกัน ป้องกัน กกต. จับผิด ขณะเดียวกันพื้นที่ทับซ้อนกัน 50 เขตดังกล่าว เชื่อว่าเพื่อไทย ต้องการแก้เกมในกรณีที่พื้นที่นั้น สุ่มเสี่ยงจะถูกแจกใบส้ม และหากมีการแจกใบส้มขึ้นมาจริง จะได้มีตัวของพรรคไทยรักษาชาติเข้ามาช่วย
นอกจากนั้น การมีอยู่ของพรรคไทยรักษาชาติยังเป็นช่องทางการระบายออกของสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่พอมีคะแนน และไม่อยากเสียไปให้พรรคอื่น ทั้งนี้ พรรคไทยรักษาชาติ รวมไปถึงบางพรรคที่แตกออกมาจากเพื่อไทย น่าจะล้มหายตายจากไปหลังจากการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะเป็นพรรคที่ตั้งมาแก้เกมทางการเมือง ไม่ได้มีสถานะเป็นพรรคหลักแต่อย่างใด
สำหรับบุคคลที่คู่ควรแก่การใช้หาเสียง ดร.สติธร กล่าวว่า บุคคลที่มีเสน่ห์ น่าจดจำ มีกระแส สามารถชูเป็นนายกฯได้ โดยส่วนตัวมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย, นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, พลตำรวจเอกเสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวศ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย