ดร.ธีรชัย ชุติมันต์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 1 พรรคภูมิใจไทย อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาญจนบุรี และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวถึงการเมืองไทย และความพร้อมในการเลือกตั้ง ว่า หลังการรัฐประหาร กลไกราชการเติบโตใหญ่มาก มันทำให้เทอะทะ ซับซ้อน ล่าช้า ไม่ต่อเนื่อง ปัญหาบางอย่างของชาวบ้านถูกละเลย บดบังไปด้วยปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ความสนใจของผู้รับผิดชอบงานแต่ละส่วนไปอยู่ที่การรักษาเก้าอี้และตำแหน่งของตัวเอง เสียงพี่น้องประชาชนไม่ได้รับการรับฟัง โดยเฉพาะบ้านเรามีผู้คนไร้เสียงจำนวนมาก ที่ภาครัฐและนักการเมืองไม่เคยได้ยินเสียงพวกเขามาก่อน
ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ยากลำบากปีหนึ่งเลยทีเดียว เริ่มจากปัจจัยที่โลกเคลื่อนที่เร็วมาก ประเทศทรงอิทธิพลทั้ง จีน และอเมริกา เคลื่อนไหวหนักและส่งผลมาถึงเศรษฐกิจโลกและบ้านเราอย่างชัดเจนและหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยพึ่งพาภาคเกษตรอุตสาหกรรม และภาคท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกทั้งสิ้น เมื่อใดที่โลกเคลื่อนเราย่อมกระทบก่อนทันที ด้วยเหตุนี้เมืองกาญจน์บ้านเราจึงได้รับผลกระทบไม่น้อยเช่นกัน หลายปีก่อนหน้านี้ ราคาพืชผลเกษตรยังประคองตัวอยู่ได้ในระดับที่พอใจและพอไหว แต่ปีนี้ราคาร่วงลดฮวบจนพี่น้องชาวไร่ ชาวนา หน้าแห้งไปตามๆ กัน อีกทั้งปัจจัยการผลิตต่างๆ ทั้งพันธุ์ ทั้งปุ๋ย ยา ก็ถีบตัวสวนกับราคาผลผลิต สืบจากกระบวนการผลิตและช่องจำหน่ายยังต้องพึ่งพาบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเดียว การกำหนดราคาต้นทุน จนถึงราคาจำหน่าย กำหนดเองไม่ได้
สิ่งที่เราต้องเพิ่มและต้องเริ่มมากขึ้นในช่วงต่อไปคือรวบรวมข้อมูลเกษตรกร เพื่อเพิ่มกลไกต่อรองกับตลาด ทั้งการเข้าไปเหมาซื้อ ปัจจัยการผลิต ตรงจากผู้ผลิตไม่ต้องผ่านเอเย่นต์ เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกกว่า และช่วยลดต้นทุนได้ไม่น้อย การหาช่องจำหน่ายใหม่ หรือหาลูกค้าตลาดใหม่ที่สามารถเฉพาะเจาะจงได้มากกว่าไปฝากพ่อค้าคนกลาง