ดร.สติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการผู้ชำนาญการ สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงการจับหมายเลขของพรรคผู้สมัคร ส.ส.แบบเขต ของพรรคการเมืองต่างๆ ที่แต่ละเขตได้หมายเลขไม่เหมือนกัน จนถูกวิจารณ์ว่าเป็นระบบที่สร้างความสับสนแก่ประชาชนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้พรรคการเมืองหลายพรรคเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ ด้วยการประชาสัมพันธ์โดยเน้นชื่อพรรค โลโก้พรรค มากกว่าประชาสัมพันธ์หมายเลขและชื่อของผู้สมัครเอง เนื่องจากป้องกันการสับสนเบอร์จนลงคะแนนผิดพลาด ซึ่งถือว่าเป็นการแก้เกมที่ดี เพราะในบัตรเลือกตั้งมีเพียงชื่อพรรค โลโก้พรรค และหมายเลขผู้สมัคร เท่านั้น
นอกจากนี้ ดร.สติธร ยังคาดการณ์จำนวน ส.ส.ของพรรคการเมืองที่มีกระแสในสังคมออนไลน์และตามหน้าสื่อต่างๆ เช่น พรรคภูมิใจไทย และพรรคอนาคตใหม่ว่า กรณีพรรคภูมิใจไทย ถ้าเทียบกับอนาคตใหม่แล้ว ตนมองว่าผู้สมัครเขตของภูมิใจไทยค่อนข้างแข็ง มีโอกาสจะได้หลายคน อาจจะทำให้บัญชีรายชื่อไปได้ไม่ไกลมาก ระยะปลอดภัยของ ส.ส.แบบปาร์ตี้ลิสต์อาจอยู่ที่ 1-20
ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ หลังจากที่ตนได้เห็นรายชื่อผู้สมัครแบบแบ่งเขตแล้ว เชื่อว่ายังไม่มีความโดดเด่นที่จะเอาชนะพรรคอื่นๆได้ อีกทั้ง พรรคนี้เน้นขายนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคเป็นหลัก ฐานเสียงที่จะเลือกอนาคตใหม่ ก็คงเลือกเพราะตัวนายธนาธร เราจึงมักเห็นป้ายหาเสียงของอนาคตใหม่มีภาพของหัวหน้าพรรคมากกว่าผู้สมัคร
“พรรคอนาคตใหม่ขึ้นอยู่กับการสร้างกระแสช่วงโค้งสุดท้าย เพราะที่ผ่านมา ขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นระยะ ผมเชื่อว่าเสียงทั้งประเทศ ถ้าหวัง 1 ล้านเสียงก็พอมีลุ้น แต่ ณ วันนี้ ถ้าเอาจากที่มองเห็น ส.ส.เขตอาจไม่ได้เลย ถือเป็นงานที่ยาก แต่คะแนนที่เก็บมาจากเขตต่างๆ เมื่อรวมๆ กันแล้ว จะแปรมาเป็นที่นั่งปาร์ตี้ลิสต์ 13-15 ที่นั่ง อันนี้พอมีหวัง หรือถ้าเอาระยะปลอดภัยคือ 1-10 แล้วไปลุ้นเอา 13-15 ที่นั่ง แต่ภูมิใจไทยระยะปลอดภัยคือ 20 ที่นั่งปาร์ตี้ลิสต์ ไม่รวมแบบเขต” ดร.สติธรกล่าว