วันที่ 13 ก.พ. พอ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย(ภท.) เปิดเผยถึงสาเหตุที่ทั่วประเทศเห็นป้ายนโยบายการปลูกกัญชาเสรีของภท.ว่า จริงแล้วการติดป้ายหาเสียงพรรคให้ความสำคัญในทุกนโยบาย เรามีกระแสตอบรับเป็นอย่างดีในหลายด้าน แต่กระแสการตอบรับเรื่องการปลูกกัญชาเสรี เป็นเรื่องหนึ่งที่คนรุ่นใหม่ เกษตรกร ประชาชนทั่วไป ชื่นชอบ เพราะสามารถสร้างรายได้ให้คนทั้งประเทศได้และยังสามารถเพาะปลูกในที่พักอาศัยได้
“การติดป้ายประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ เพราะมองเห็นว่าการปลูกกัญชาเสรี ต้องการให้เป็นพืชเศรษฐกิจ เพราะเรายึด แคลิฟอร์เนีย โมเดล ที่เขาทำแล้วประสบความสำเร็จในการสร้างรายได้ ต่อปีมากถึง 1.9 ล้านล้านบาท และในอนาคตจะมูลค่าทางการตลาดสูงถึง 4.6 ล้านล้านบาท
ดังนั้น เราจะปิดกั้นโอกาสที่คนไทย และรัฐบาลจะมีรายได้ทำไม พรรคภูมิใจไทยผลักดันนโยบายให้กัญชาให้เป็นพืชเศรษฐกิจ เพราะทรัพยากรของประเทศไทย มีดิน น้ำ อากาศ ที่สามารถทำสายพันธ์กัญชาให้เป็นที่เบอร์ 1 ของโลก อีกทั้งประโยชน์ต่างๆนั้นคุ้มค่า เพราะเป็นยารักษาโรค เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ในอาหารเครื่องดื่ม และเพิ่มการพักผ่อนสันทนาการในครัวเรือน”โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าว
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ ยังระบุอีกว่า เมื่อภท.เป็น รัฐบาลจะเสนอให้แก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติดปี 2522 ปลดล็อคให้ประชาชนทั่วไปสามารถปลูกกัญชาได้เสรี โดย ขอย้ำว่าคนที่ปลูกกัญชาได้ต้องขึ้นทะเบียนกับทางรัฐบาลให้ถูกต้อง โดยแต่ละบ้านสามารถปลูกได้เพียง 6 ต้น เสียภาษีให้รัฐ ต้นละ 30 บาท ซึ่งรัฐบาลจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกันกัญชา 1 ต้น ออกดอกได้ 1 กิโลกรัม 1 กิโลกรัม มีมูลค่า 70,000 บาท และ 1 บ้าน มี 6 ต้น สามารถ สร้างรายได้ต่อปีคือ 420,000 บาท แนวคิดนี้พรรคภูมิใจไทยขอยืนยันว่า เราต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนมีรายได้ ตัดขาดการผูกขาดกับนายทุน เพราะเศรษฐกิจจะดีขึ้นประชาชนก็ต้องได้ประโยชน์อย่างแท้จริง ดังนั้นเพียงแค่เปิดโอกาส คืนอำนาจให้ประชาชน ปากท้องก็ดีขึ้น ซึ่งรายได้ ต่อ ปีคือ 420,000 บาท รายได้เพิ่มขึ้นคนจนลดลง ไม่ต้องรอเงินจากบัตรทุกชนิด
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ ยังกล่าวถึงการที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุถึงความเห็นการลงพื้นพื้นที่ ครม.สัญจรทุกสัปดาห์ ของพรรคภูมิใจไทย หากได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทางพรรคให้ความเห็นจริง แต่ซึ่งหากเราเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลเราเองก็ไม่สามารถที่จะลงแบบเปะปะได้ การให้ความเห็นนี้ไม่ใช่การตอบโต้ พลเอกประยุทธ์ ซึ่งต้องขอบคุณที่ให้ความเห็นในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านเมืองที่มีประสบการณ์ แต่การจะลงพื้นที่ใดต้องมีคณะทำงาน การกลั่นกรองในปัญหาที่สะสมยาวนาน การลงไปในจังหวัดต่างๆต้องไปเพื่อคลายความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก เราถือเป็นสถาบันการเมือง การลงแบบใกล้ชิดประชาชนถือเป็นเรื่องที่ดี บางปัญหาเราต้องฟังเอง ไปให้เห็นกับตา เราจะไม่ต้องต้องจินตนาการเพื่อช่วยเหลือ เพราะหากเรารอเพียงรายงานมันก็ไม่สามารถเข้าถึงประชาชนได้ ทุกคะแนนที่ทุกคนให้กับพรรคภูมิใจไทย เราก็จะตอบแทนด้วยการทำงานแก้ปัญหาความเดือดร้อนปากท้องความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น