จากรณีที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2561 มีผลบังคับใช้ ถือเป็นสัญญาณแห่งการเริ่มต้นการแข่งขันของพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไป ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562 ในวันนี้นั้น
กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้นำเสนอ 10 ข้อห้ามการหาเสียงเลือกตั้งที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคการเมืองจะต้องพึงระมัดระวัง และประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ควรจะได้รับรู้รับทราบข้อห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งดังกล่าว และช่วยกันเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อยและสร้างสรรค์ 10 ข้อ ประกอบด้วย
- ห้ามทำโพลชี้นำ – งดทำและเผยผลก่อนวันเลือกตั้ง 7 วัน
ห้ามทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนโดยมีเจตนาไม่สุจริต มีลักษณะชี้นำ หรือมีผลต่อการตัดสินใจในการลงคะแนนเลือกหรือไม่เลือกผู้สมัครใด หรือเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ระหว่างเวลา 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง จนถึงเวลาปิดการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง เวลา 17.00 น. วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562 จะกระทำมิได้
มีโทษจำคุก ไม่เกิน 3 เดือนหรือ ปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ห้ามติดสินบนจูงใจให้ลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนน เลือกผู้สมัคร ส.ส.
ห้ามทำการจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วยวิธีการดังนี้
-การเสนอให้หรือสัญญาว่าจะให้เงินทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมแก่ผู้ใด ชุมชน สมาคม มูลนิธิ หรือสถาบันอื่นๆ
-โฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่างๆ (ยกเว้นผู้สมัครฯ ที่เป็นศิลปิน แต่ต้องไม่ใช้อุปกรณ์ในการแสดง)
-เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้้ยงผู้ใด
-หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัคร
มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดลงโทษผู้ทำผิด ให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนำจับไม่เกินกึ่งหนึ่งจากจำนวนเงินค่าปรับ แก่ผู้แจ้งความนำจับด้วย
- ห้ามชาวต่างชาติหาเสียง
ห้ามผู้ใด ซึ่งมิได้มีสัญชาติไทยเข้ามามีส่วนช่วยเหลือในการหาเสียงเลือกตั้ง ที่เป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัครส.ส.หรือพรรคการเมือง (เว้นเป็นการประกอบอาชีพตามปกติ)
มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000 – 200,000 บาท
- ห้ามเจ้าหน้าที่่รัฐวางตัวไม่เป็นกลาง
ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายกระทำการใดๆ เพื่อเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง แต่ไม่รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติที่พึงต้องปฏิบัติอยู่แล้ว
มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000 – 200,000 บาทและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี
- ห้ามขัดขวางการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
ห้ามผู้ใดกระทำการใด ขัดขวาง หน่วงเหนี่ยว เพื่อมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถใช้สิทธิเลือกตั้ง หรือไปถึงไม่ทันเวลาปิดหีบเลือกตั้ง
มีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
- ห้ามจงใจทำบัตรเลือกตั้งเสียหาย
ห้ามผู้ใดจงใจทำให้บัตรเลือกตั้งชำรุดหรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย
มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
- ห้ามขายเหล้า-เบียร์ ในเขตเลือกตั้ง 1 วัน
ห้ามจำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ในเขตเลือกตั้ง ในระหว่างเวลา 18.00 น. ของวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2562 จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562
มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ห้ามเล่นการพนันผลการเลือกตั้ง
ห้ามเล่นหรือจัดให้มีการเล่นการพนันขันต่อใดๆ เกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง
มีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้จัดให้มีการพนัน
หากผู้สมัครส.ส.หรือพรรคการเมืองทำผิด มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครหรือหัวหน้าพรรคการเมือง
- ห้ามหาเสียง 1 วันก่อนเลือกตั้ง
ห้ามหาเสียงไม่ว่าโดยวิธีการใดที่เป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครส.ส.หรือพรรคการเมืองตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 23 มีนาคม 2562 – เวลา 24.00 น. ของวันที่ 24 มีนาคม 2562
มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ลักษณะต้องห้ามการหาเสียงเลือกตั้ง
-ห้ามนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง
-ห้ามแจกจ่ายเอกสารเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งด้วยวิธีการวางหรือโปรยในสถานที่สาธารณะ
-ห้ามหาเสียงโดยใช้ถ้อยคำรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย หรือปลุกระดม
-ห้ามช่วยเหลือเงินหรือทรัพย์สิน ตามประเพณีต่างๆ
คณะกรรมการการเลือกตั้ง สามารถสั่งให้แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือลบข้อมูล โดยให้เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง แจ้งไปยังผู้สมัครส.ส. หรือพรรคการเมือง หรือผู้ใด ดำเนินการตามคำสั่งนั้นโดยเร็ว